ข้อความต้นฉบับในหน้า
ทำอย่างไรทั้งพระทั้งโยมที่มาร่วมงาน และคนที่ล่วงลับไปแล้ว
จะได้บุญกันเต็มที ?
ให้เขาฟัง
มีวิธีง่ายๆ คือ พอพระสวดจบแล้ว พระเราก็ช่วยเทศน์ง่ายๆ
เมื่อตอนที่โยมพ่อของหลวงพ่อเสีย ก็ใช้วิธีนี้ หลวงพ่อก็
เทศน์ง่ายๆ ว่า
“ถ้าพูดกันโดยหลักความจริงแล้ว งานศพนี้ไม่ว่าเราจะมา หรือ
ไม่มาก็ตาม ศพนั้นไม่ฟื้นขึ้นมาหรอก จุดมุ่งหมายอย่างเดียวคือ เรา
มาเพื่อต้องการเครื่องเตือนใจว่า อีกหน่อยเราก็จะต้องจากโลกไปมือ
เปล่าเหมือนอย่างกับแก อย่าเที่ยวไปทำแสบกับใครๆ เลย อย่าคิด
ว่าตัวเองเก่งนักเลย เพราะฉะนั้นอะไรที่แสบๆอยู่ ก็รีบเลิกซะ อีก
หน่อยต้องแบมือเปล่าไป แล้วอะไรที่เป็นความดี รีบๆ ทำเข้าเยอะๆ
ยิ่งกว่านั้น ต้องฝึกทำใจให้ผ่องใสตั้งแต่วันนี้ เพราะไม่ช้าเราต้องตาย
เหมือนกับโยมพ่อที่อยู่ในโลงนี้เหมือนกัน
เพียงแต่เรามางานศพแล้วเราคิดได้อย่างนี้ ตัวเราเองก็ได้บุญแล้ว
คือได้ความไม่ประมาท แล้วก็ตั้งใจนั่งสมาธิกันตัวตั้ง เลิกทำความชั่ว ทำ
ความดีกันเต็มที่ เท่านี้ก็ได้บุญแล้ว แล้วคนตายได้อะไร คนตายก็ได้
บุญด้วย ในฐานะเป็นอุปกรณ์สอนมรณานุสติให้คนที่มาร่วมงานกันเยอะๆ
คราวนี้คนที่มางานวันนั้นไม่ว่าเยอะเท่าไร ก็ได้บุญไปคนละเยอะๆ"
คราวนี้ ถ้าเราแปลบทสวดมนต์ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เราก็ไปถาม
ครูบาอาจารย์ แล้วขณะนี้ยังมีหนังสือสวดมนต์แปลอีกเล่มหนึ่ง ชื่อว่า
พระพุทธมนต์และคุณค่าทางจริยธรรม เป็นของ คุณบุญเรือง อินทวรันต์
หนังสือเล่มนี้แทนที่จะแปลเฉยๆ เหมือนหนังสือสวดมนต์แปลทั่วไป
ขายังชี้แนะให้ด้วย จึงเหมาะมากสำหรับการนำไปเทศน์สอน
ยกตัวอย่างการแปลมงคลสูตร ก็จะแบ่งเป็นสามส่วน คือ
การเข้าใจในพระธรรม
๗๕