ข้อความต้นฉบับในหน้า
๓๒
ญาติโยมที่มาวัดช่วยกันคนละไม้คนละมืออย่างนี้ ก็เท่ากับเอาธรรมะ
ที่ได้เรียนกันในศาลามาใช้งานจริง วัดก็สะอาด ญาติโยมก็ได้บุญด้วย
และที่สำคัญคือ เป็นการวัดตัวเราด้วยว่า การเทศน์ของเรานั้น
ญาติโยมเข้าใจและเอาไปใช้งานได้ไหม ส่วนมากเรามักจะวัดกันว่า ใคร
เทศน์ดีไม่ดี ให้ดูว่าเขาติดกัณฑ์เทศน์เท่าไร แต่คราวนี้มีวิธีวัดอีกวิธีหนึ่ง
เราอยากจะรู้ว่าเราเทศน์ได้ผลหรือไม่ได้ผล ก็ดูว่าเราเทศน์เสร็จแล้ว มี
คนมาช่วยขัดห้องน้ำกี่คน มาช่วยถูศาลากี่คน ถ้าเขาช่วยทำวัดจนสะอาด
แล้วค่อยกลับบ้าน แสดงว่าการเทศน์ของเราครั้งนั้นใช้ได้ แต่ถ้าวันนี้
เทศน์แล้ว เขาติดกัณฑ์เทศน์แล้ว ถึงได้เงินมา แต่ว่ายังมีคนถ่ายเอา
ไว้แล้วไม่ราด แสดงว่าการเทศน์ครั้งนั้นยังไม่ได้ผล แต่ถ้าพอเทศน์จบ
ไม่ว่าเศรษฐีหรือคนยากคนจนมาช่วยกันขัดห้องน้ำ ช่วยกันทําความสะอาด
เขาลดทิฏฐิมานะในใจลงได้ แสดงว่าการเทศน์ครั้งนั้นได้ผล
บ
ด้วยเหตุนี้ สถานที่ที่ตัดสินความสะอาดของวัด เป็นเหมือน
หัวใจความสะอาดของวัด คือ ห้องน้ำ เพราะเป็นคำแรกที่ประชาชน
มาวัดแล้ว เขาถามถึง
เพราะฉะนั้น แม้เวลาจะผ่านมาถึงวันนี้เกือบร้อยปีแล้วก็ตาม
แต่สิ่งที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำสั่งเอาไว้ไม่ผิดเลยว่า ทุน
ในการสร้างวัด พัฒนาวัดอยู่ที่ความสะอาดของวัด
เพราะฉะนั้น ในเรื่องของการดูแลรักษาวัดนั้น จึงเป็นเรื่องที่
จะต้องช่วยกันทั้งด้านลงมือดูแลรักษาวัดด้วยตัวเอง และฝึกคนในวัด
ให้มีวินัยมาช่วยกันรักษาวัด
มาถึงตรงนี้แล้ว ก็พอจะช่วยให้เรามองออกว่า ไม่ว่าจะวัดเล็ก
วัดใหญ่ ถ้าฝึกคนไม่ดีแล้ว ก็มีสิทธิ์ล้มละลายได้ทั้งนั้น ขณะเดียวกัน
แม้ว่าวัดเราจะไม่ได้สร้างด้วยคอนกรีตเสริมใยเหล็กอย่างหนาแน่น
แต่ทำให้สะอาด ร่มรื่น แบ่งพื้นที่เป็นสัดส่วนเรียบร้อย ก็เป็นที่
อาวาสเป็นที่สบาย