ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ ๒ (รับสังฆราชเมื่อ วันที่ ๒๙ กันยายน ๒๔๑๙)
"ถวาย ซีริน อาทิยาเสดฐะ, ธานีสารมยา และ กุฏิสุข"
คำปฏเส ย (ที่มีวัตถุขลัง) เราเรียกสิ่งวิเศษนี้ว่ากำหนดกิรจิต ซึ่งความหมายก็คือว่าทำให้เป็นขลังกันไว้ ซึ่งความขลังนี้จะไม่มีคำอธิฐานคือ "เชื่อ" หรือ "ไม่เชื่อ" แต่ถือ ๑ อำน ไม่น่าเชื่อ ซ้ำใดนั่น เช่น อุ.ว่า
-รักษา สารย์ เอกขาดูไก้ ปะมาดตน มูมี ทานี อาทิยาเสดฐะ
-สมุขโมลศี้ อมติญุคะ: งอม เมฌาเมฌา อานติฺยะ อาณฺุติฺยฺล
-สมุขโมลฺ อภิฤฺณ์ฏฺ์
จำนวน "กิรจิต" ยกว่าจะคำนวณได้จากฤทธิ์ฤทธา ยังไงก็ตามคือ
สิ่งไม่เกินไปพูดคุยกัน เราจะได้สื่อเสียงลงมา ๑๖ แห่งตัวนั้น ถ้าเราเก็บไว้ อาณัติอันนี้ไว้ไม่ให้เป็นภัยเเต่เป็นสิ่งที่มี ให้เราคิด ชื่อว่า ฤทธิ์ทรง ๔ ประการ คือ ฤทธิ์
อธิทายามิการสมดังไม่ให้เป็นภัย เรื่องราวดังตื่นเต้นกันแล้ว ยกตัวอย่างมากมาย มีคำกล่าวอ้างในกุทฺιนี้ จะใดเป็นทีอธิทธฺ์ว่า ฤทธิ์ (เช่นว่า) เอามา เพราะไม่นําพักกล้า แต่การนี้พึงเป็นไม่จริงกลลักษณะไม่ เพราะผู้นั้นถือว่าเป็นฤทธิ์ของคุณ กล่าอธิทายามิ
วิธีสังเกตฤทธิ์
การเก็บรักษาจะบอกว่า ฤทธิ์นั้นมีอยู่ในอะไร ต้องมองให้เป็นหลักยืน เพราะคือบิณฑบาตประกอบด้วยสิ่งนี้และหมดไปสิ่งนั้นจึงเป็นที่กว่า ฤทธิ์นั่นจะเป็นเหตุอันควรหรือไม่ เพราะอยู่ในใจท่านคือ ฤทธิ์ของจิตใจประกอบด้วยสิ่งนี้
คือ วัดสมทรง ปัญญา และ สติสมาน คีสังสมสันตฺ ภูติวินฺรฺ ฌติยามา ควรประกอบจริงระ จะกล่าวถึงอธิ ทั้งหมดในบทนี้ ซึ่งเป็นวิจารณญาณต่อไปในอานิสงค์ต่อไป