ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลังจากอุปสมบทแล้ว วันรุ่งขึ้นท่านได้เรียนวิปัสสนา
ธุระ โดยมีพระอาจารย์โหน่ง ผู้เคร่งครัดในธรรมปฏิบัติเป็น
พระอาจารย์ ท่านได้ศึกษาทั้งปริยัติปฏิบัติที่วัดสองพี่น้อง
ตลอดพรรษา ในด้านปริยัตินั้นท่านสามารถท่องบทสวดมนต์
ต่างๆ ได้มาก ครั้งหนึ่งท่านสงสัยว่า “อวิชชาปจฺจยา” แปล
ว่าอะไร เมื่อสอบถามพระพี่ชายซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกันบวช
มาได้ ๓ พรรษาท่านก็แปลไม่ได้ ถามพระอาจารย์อีกรูปหนึ่ง
ท่านก็แปลไม่ได้เช่นกันและยังบอกอีกด้วยว่า “เขาไม่แปลกัน
หรอกคุณ อยากจะรู้ต้องไปเรียนที่บางกอก” ท่านจึงตั้งใจว่า
จะต้องไปเรียนที่กรุงเทพฯ
ท่านย้ายจากวัดสองพี่น้องมาจำพรรษา ณ วัดพระเชตุ
พนฯ เพื่อเรียนภาษาบาลี ท่านเล่าว่า ท่านเคยชอบศึกษาทุก
อย่างที่เป็นที่นิยมกันในสมัยนั้น เช่น โหราศาสตร์ เล่นแร่
แปรธาตุ หุงปรอท และได้ทดลองทำดูทุกอย่าง ท่านไม่เคย
ตาหนิวิชาของใคร ต่อมาท่านก็เลิกจากสิ่งเหล่านั้นเด็ดขาด
คงถือการปฏิบัติธรรมเพียงอย่างเดียว
ในขณะที่จำพรรษาที่วัดพระเชตุพนฯ นั้น ท่านได้ให้
โยมน้องชายคนเล็กที่ชื่อ สำรวย มาอยู่ปฏิบัติธรรมและเรียน
หนังสือด้วย จนพรรษาที่ ๔ ท่านได้ไปพักรักษาตัวเพราะโรค
ใข้ทรพิษที่วัดชัยพฤกษ์มาลา พร้อมกับนายสำรวย วันหนึ่ง
๒๒