ความสำคัญของความสามัคคีในหมู่คณะ พระมงคลเทพมุนี มหาปูชนียาจารย์ หน้า 123
หน้าที่ 123 / 170

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของการมีความสามัคคีในหมู่คณะ โดยใช้ตัวอย่างจากการโกนผมของพระภิกษุสามเณรและการปกครองวัดที่ต้องมีความสงบเรียบร้อย หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่าการปฏิบัติพร้อมเพรียงกันนั้นนำมาซึ่งความสุข และช่วยลดปัญหาการทะเลาะเบาะแว้งต่างๆ ในหมู่คณะ การทำงานร่วมกัน มีความสามัคคีธรรม ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ และหลีกเลี่ยงที่จะเป็นอย่างนกกระจาบแตกฝูง ซึ่งเป็นอุทาหรณ์ที่ท่านยกมาเพื่อสอนให้พระสังฆาธุระได้เห็นความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีน้ำหนึ่งใจเดียวกัน แม้ว่าท่านจะให้ความสำคัญกับการเจริญภาวนาและเผยแผ่วิชชาธรรมกายอยู่มาก แต่ก็ไม่ละเลยในเรื่องการดูแลความสงบเรียบร้อยในวัด.

หัวข้อประเด็น

-ความสามัคคีในหมู่คณะ
-การปฏิบัติพร้อมเพรียงกัน
-บทเรียนจากนกกระจาบ
-การปกครองวัดอย่างสงบเรียบร้อย
-การเจริญภาวนาและการเผยแผ่วิชชาธรรมกาย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ท่านให้อรรถาธิบายว่า ความเลื่อมใสในหมู่มีอยู่แก่ บุคคลใด บุคคลนั้นได้ชื่อว่าเป็นคนไม่ยากจน แต่เป็นคนมั่งมี อยู่ในลัทธิใดต้องไม่รังเกียจเดียดฉันท์ ต้องเอาใจใส่แนะนำ ตักเตือนซึ่งกันและกัน ไปก็ไปในหมู่เดียวกัน พวกเดียวกัน หลวงพ่อท่านสอนเสมอว่า การปฏิบัติให้พร้อมเพรียงกันใน หมู่คณะทำให้เป็นสุข ไม่เกิดการทะเลาะเบาะแว้งการวิวาท การแตกความสามัคคี หมู่คณะก็เจริญไม่เกิดปัญหา ถ้ามี ปัญหาใดๆ เกิดขึ้นก็สามารถแก้ให้ลุล่วงไปได้ด้วยดี เพราะมี สามัคคีธรรม แม้แต่การโกนผมของพระภิกษุสามเณรและแม่ชี ท่านก็ต้องการให้โกนผมให้พร้อมเพรียงเหมือนกันหมดทุกคน ในวันเดียวกัน ถ้าผู้ใดไม่โกนผมท่านจะพูดว่า แม้แต่หัวมันยัง ไม่สามัคคีแล้วใจจะสามัคคีได้อย่างไร ท่านมักจะยกนิทาน เรื่องนกกระจาบแตกฝูง มาเล่าให้ฟังเป็นอุทาหรณ์เวลาที่มี การอบรมพระภิกษุสามเณร ท่านไม่ต้องการให้พระภิกษุ สามเณร แม่ชี อุบาสกอุบาสิกา ในวัดเป็นอย่างนกกระจาบ แตกฝูง ท่านต้องการให้เป็นอย่างนกที่สามัคคีกัน เรื่องการปกครองดูแลวัด ท่านก็หมั่นตรวจตราให้มี ความสงบเรียบร้อยอยู่เสมอ แม้ว่าเวลาส่วนใหญ่ท่านจะ อุทิศให้กับการเจริญภาวนาและเผยแผ่วิชชาธรรมกายก็ตาม ในตอนกลางคืนท่านก็เดินตรวจวัดทุกคืน แม้เวลาทีฝนตกพร่าๆ ๑๒๓
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More