การเลี้ยงดูในพระพุทธศาสนา พระมงคลเทพมุนี มหาปูชนียาจารย์ หน้า 120
หน้าที่ 120 / 170

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เน้นความสำคัญของการเลี้ยงดูในทางพระพุทธศาสนา โดยยกตัวอย่างการบริหารบ้านเรือนและวัดที่ต้องมีสมภารที่มีความสามารถ หากสมภารไม่ฉลาด การพัฒนาวัดก็จะหยุดชะงัก นอกจากนี้ยังเน้นการใช้จ่ายทรัพย์อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของครอบครัวและสังคม โดยสร้างความรู้ให้กับฆราวาสในเรื่องการใช้จ่ายอย่างประหยัดและเหมาะสม การสร้างความรู้และการทำงานหนักเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการอยู่รอดในสังคมนี้ เช่นกันกับบทบาทของพระภิกษุและอุบาสกอุบาสิกาที่ต้องร่วมมือกันเพื่อความเจริญของวัดและชุมชน.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของสมภาร
-การใช้ทรัพย์อย่างประหยัด
-ความร่วมมือระหว่างพระและฆราวาส
-บทบาทของวัดในสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เลี้ยงยากเลย เป็นที่เบาใจในทางพระพุทธศาสนา ปุถุชนก็ ต้องประพฤติตัวให้เลี้ยงง่ายจะได้เป็นอายุพระพุทธศาสนา ท่านเปรียบเทียบว่า บ้านเรือนจะเจริญได้เพราะมีพ่อ บ้านแม่เรือนรู้จักจับจ่ายใช้สอยทรัพย์ และรู้จักปกครองบ้าน เรือน วัดก็เช่นเดียวกันจะเจริญได้เพราะอาศัยสมภาร ถ้าไม่ มีสมภารเป็นต้องแตกสลาย หรือถ้าสมภารไม่ฉลาด วัดนั้นก็ ทรุดเสื่อมสลายเช่นกัน ถ้าสมภารเปรื่องปราดดี วัดนั้นก็เจริญ ท่านบอกว่าถ้าสมภารไม่สามารถทำให้วัดเจริญได้ก็อย่าทําลาย ของเดิมที่เขาทำไว้แล้ว ท่านเองไม่ใช่แต่เทศน์อย่างเดียว สอน วิชชาธรรมกายก็ได้ หาเงินสร้างโรงเรียนก็ได้ ทำได้ทุกอย่าง วัดที่เป็นอยู่ได้เพราะสมภารเป็นสำคัญ แต่สมภารก็ต้อง อาศัยพระภิกษุสามเณร อุบาสกอุบาสิกา ร่วมมือร่วมแรงกัน ส่วนศิษย์ที่เป็นฆราวาสนั้น ท่านก็สอนให้รู้จักใช้จ่าย ทรัพย์ให้เป็น ให้กินอยู่อย่างประหยัด เพราะท่านทราบดีว่า ทรัพย์นั้นเป็นสิ่งจําเป็นอย่างยิ่งสำหรับผู้ครองเรือน ทุกคน ต้องประกอบอาชีพการงานหนักลำบากยากเข็ญ เพราะต้อง การทรัพย์มาจับจ่ายใช้สอยบำรุงตนและครอบครัวให้มีฐานะ มีความเป็นอยู่ที่สะดวกสบาย แต่ถ้ามีทรัพย์แล้วไม่รู้จักใช้ หรือใช้ไม่เป็น ก็จะไม่มีวันตั้งหลักฐานได้ ท่านพูดบ่อยๆ ว่า คนฉลาดกินเพื่ออยู่ แต่คนโง่อยู่เพื่อกิน ๑๒๐
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More