ข้อความต้นฉบับในหน้า
นั้น ส่วนธรรมล่ะ คือธรรมที่ทำให้เป็นกายมนุษย์น่ะก็เรียกว่า
ธรรมสมมติเหมือนกัน สมมติขึ้นชั่วคราวหนึ่ง ไม่ใช่ตัว
ดังที่พระพุทธองค์รับสั่งว่า “สพเพ ธมฺมา อนตฺตาติ
ธรรมทั้งสิ้นไม่ใช่ตัว ตัวทั้งสิ้นไม่ใช่ธรรม ตัวก็เป็นตัว ธรรมก็
เป็นธรรม คนละนัยแก่กัน ทั้ง ๑๘ กาย มีตัวกับมีธรรมที่
ทําให้เป็นตัว แต่ตัวทั้งหลายเหล่านั้น ทั้ง 4 กายในภพ เป็น
อนิจจ์ ทุกข์ อนตฺตา หมดไม่เหลือเลย ทั้ง ๑๐ กายนอกภพเป็น
นิจจ์ สุข อตฺตา ทั้งหมดตรงกันข้ามอย่างนี้ นิจจ์ สุข อตฺตา
เป็นของเที่ยงของจริงทั้งหมด แต่ว่าในภพแล้วเป็นของไม่เที่ยง
ไม่จริงหมด รู้ให้ชัดเสียอย่างนี้ ที่เกิดมาในมนุษย์โลก เป็นภิกษุ
สามเณร ก็เย็นอกเย็นใจ สบายอกสบายใจ ไม่ถือเลอะเลือน
ผิดๆ พลาดๆ ไป ให้รู้จักหลักพระพุทธศาสนาอย่างนี้ รู้จัก
ความเป็นจริงของทางมรรคผล ตามความเป็นจริงของกายที่
เป็นของในภพนอกภพชัดอย่างนี้ จะได้ไม่งมงายในการหา
เลี้ยงชีพหรือการเป็นอยู่ในหมู่มนุษย์ ไม่มีการสับสนอลหม่าน
กับใคร ให้แต่ความสุขกับตนและบุคคลเป็นเบื้องหน้า
ที่ชี้แจงมานี้เป็นเรื่องตนของตนและธรรมที่ทำให้เป็น
ตนของตน ทั้งเป็นเกาะทั้งเป็นที่พึ่ง ตามความในพระบาลีว่า
อตฺตทีปา อตฺตสรณา นาญญสุสรณา ธมมทีปา ธมฺมสฺสรณา
นาญฺญสฺสรณา ดังนี้ . . ”
๓.ข้อมูลต่อไปนี้ เหมาะสำหรับท่านที่เชื่อมั่นในวิทยา-
๑๖๓