ข้อความต้นฉบับในหน้า
สงสารสุนัขตัวนั้น จึงได้ปั่นข้าวที่เหลืออีกคำหนึ่งและแบ่ง
กล้วยน้ำว้าครึ่งผลให้แก่สุนัขผอมโซตัวนั้น ก่อนจะยื่นอาหาร
ให้ ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า “ขึ้นชื่อว่าความอดอยากเช่นนี้
ขออย่าให้มีอีกเลย”
จากนั้นเป็นต้นมาทุกครั้งที่ท่านไปบิณฑบาตปรากฏว่าได้
อาหารมากมายเกินกว่าที่ท่านรูปเดียวจะฉันหมด ท่านจึงได้
แบ่งถวายพระภิกษุรูปอื่นๆ นอกจากนั้นยังมีแม่ค้าขายข้าว
แกงคนหนึ่งชื่อนวม บ้านอยู่ตลาดท่าเตียน ปวารณาทําอา
หารเพลถวายเป็นประจำ ความลำบากของพระภิกษุในเรื่อง
ภัตตาหารในครั้งนั้นทำให้หลวงพ่อดำริว่า “เมื่อเรามีกำลัง
เพียงพอเมื่อใดก็ตาม เราจะตั้งโรงครัวประกอบอาหารเลี้ยง
พระเณรโดยไม่ต้องให้ลำาบาก เพื่อจะได้มีเวลาศึกษาเล่าเรียน
กันอย่างเต็มที่” ซึ่งต่อมาท่านก็ทําได้สําเร็จดังเป็นที่ทราบกัน
ดีว่าโรงครัวของท่านสามารถเลี้ยงพระภิกษุสามเณร อุบาสก
อุบาสิกา จํานวนมากกว่า ๔๐๐ คน เป็นประจำทุกวัน
การศึกษาของท่านสมัยนั้น เมื่อฉันภัตตาหารเช้าเสร็จ
แล้วต้องข้ามฟากไปเรียนที่วัดอรุณราชวราราม
กลับมาฉันที่วัดพระเชตุพนฯ แล้วเรียนต่อที่นั่น ท่านต้องเดิน
ทางไปศึกษาในสํานักต่างๆ อยู่หลายปี ต่อมาเมื่อพวกข้าหลวง
ในวังกรมหมื่นพิชัยมหินทโรดมเกิดความเลื่อมใสท่าน
ตอนเพล
และ
๒๔