คนดีต้องเห็นโทษของอบายมุข คัมภีร์กู้วิกฤตชาติ หน้า 72
หน้าที่ 72 / 263

สรุปเนื้อหา

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเห็นถึงอาการของอินทรีย์ของมนุษย์และสอนให้พวกเขาเข้าใจหลักการของความดีโดยการละเว้นความชั่วและอบายมุขทั้งห้าประการ. ความดีนำไปสู่ความสุขในชีวิตและไม่มีปัญหาหลังจากตายไป. แม้ปัญญาจะยังอ่อนแต่ศรัทธาในพระพุทธวจนะทำให้เขาเกิดความสงบและเข้าถึงความจริงของการดำรงชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-การสอนของพระพุทธเจ้า
-การละเว้นอบายมุข
-ศรัทธาและความดี
-ผลของการปฏิบัติธรรม
-ชีวิตหลังความตาย

ข้อความต้นฉบับในหน้า

คนดีต้องเห็นโทษของอบายมุข • พุทธวิธีในการบ่มอินทรีย์ให้แก่ศิษย์ โดยเหตุที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงมีพระสัพพัญญุตญาณ รู้แจ้งแทงตลอดในขันธสันดานของมนุษยชาติทั้งหลายว่า บางคนมี อินทรีย์ยังอ่อน บางคนปานกลาง และบางคนแก่กล้า ทรงเห็นว่า สิงคาลกะยังมีอินทรีย์อ่อนอยู่ เมื่อจะทรงสอนให้เขาเป็นคนดี พระองค์จึงทรงปลูกศรัทธาเป็นเบื้องต้น โดยแสดงอริยวินัยว่า อริยสาวกนั้นจะไม่ก่อกรรมกิเลส ๔ ประการ ไม่ทำชั่วทำบาปด้วย ความลำเอียง ๔ ประการ อีกทั้งไม่ผลาญทรัพย์ของตนเองด้วย อบายมุข 5 ประการ แล้วทรงสรุปว่า การที่พระอริยสาวกเป็นผู้ ปราศจากบาปกรรม ๑๔ ประการนี้เอง ท่านจึงเป็นผู้ปิดป้องทิศทั้ง 5 ไว้ได้ มีชีวิตอยู่ในโลกนี้ก็เป็นสุข เมื่อละโลกไปแล้วก็ไปสวรรค์ พระธรรมเทศนานี้ย่อมมีนัยว่า คนดีทั้งหลายแทนที่เขาจะ ได้ ไหว้ทิศกันหรือกราบคารวะธรรมชาติกันดังเช่นที่สิงคาลกะกระทำ เขากลับทำอย่างอื่น คือละเว้นบาปกรรม ๑๔ ประการ แล้วก็ ประสบความสุขความเจริญ ไม่ประสบปัญหาเดือดร้อนดังที่ชาย หนุ่มประสบอยู่ ครั้นเมื่อตายไปก็ไม่ต้องตกนรก ได้ไปสู่สวรรค์ แม้ปัญญาจะยังหย่อนอยู่ อาจจะยังไม่เข้าใจพระพุทธโอวาท ได้ลึกซึ้งนัก แต่ชายหนุ่มก็พอจะตรองได้บ้างแล้วว่า วิธีการของ เขาน่าจะไม่ถูกต้องและไม่สามารถแก้ปัญหาได้สำเร็จ แต่พระพุทธ โอวาท น่าจะแก้ปัญหาได้สำเร็จ เพราะเป็นอริยวินัยที่อริยสาวก ปฏิบัติกัน อีกทั้งพระพุทธองค์ก็ทรงยืนยันถึงประสิทธิผลของ อริยวินัยไว้แล้ว สิงคาลกะย่อมจะเกิดความคิดเลื่อมใสศรัทธาและ ความเคารพในพระพุทธองค์อย่างแน่นอน . • ວຕ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More