ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๐๐
คัมภีร์กู้วิกฤตชาติ
5
ได้เด็ดขาด เมื่อถึงคราวแสวงหาทรัพย์มาเลี้ยงชีพ ก็จะประกอบ
แต่สัมมาอาชีวะคืออาชีพสุจริต พยายามรักษาความเป็นธรรม ไม่
กระทําสิ่งใดด้วยความลำเอียง และหลีกห่างจากอบายมุข
สามารถดารงชีวิตอยู่ด้วยความสงบสุข ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยเป็นเศรษฐี
แต่ก็มีความเจริญก้าวหน้า มีทรัพย์สินเพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆ เหมือน
ผึ้งสร้างรัง หรือเหมือนตัวปลวกสร้างจอมปลวก ดังที่พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในสิงคาลกสูตรว่า
“บัณฑิตผู้สมบูรณ์ด้วยศีล
ย่อมรุ่งเรืองส่องสว่าง
เพียงโคมไฟ เมื่อบุคคลสะสมโภคสมบัติอยู่ เหมือนแมลง
ผึ้งสร้างรัง โภคสมบัติย่อมถึงความเพิ่มพูน ดุจจอมปลวก
อันตัวปลวกก่อขึ้น ฉะนั้น”
จากพุทธภาษิตนี้จะเห็นได้ว่า “บัณฑิต” จะเป็นใครก็ได้
จะอ่าน-เขียนเป็นหรือไม่ จะมีปริญญาการศึกษาทางโลกหรือไม่
ไม่สำคัญ แต่สำคัญอยู่ตรงที่ต้องมีศีลบริบูรณ์ คือเป็นคนใจสะอาด
บริสุทธิ์ ผ่องใส ละเอียดอ่อนนั่นเอง ผู้ที่จะมีศีลบริบูรณ์ได้ จะต้อง
มีปัญญา สามารถประกอบสัมมาอาชีวะเลี้ยงตนให้เจริญรุ่งเรือง (และ
ไม่มีวันตกต่ำ) โดยไม่ต้องทำบาป ด้วยการคดโกง คอรัปชั่น หรือ
ทรยศต่อสังคมและประเทศชาติ
ดังนั้น เมื่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงใช้คำว่า บัณฑิต
มิตรแท้ กัลยาณมิตร หรือคนดี ย่อมมีความหมายเหมือนกันหมด
ว่าเป็น “คนดี” มีความรับผิดชอบทั้ง ๓ ประการ ตามคุณสมบัติ
ของคนดีดังกล่าวแล้ว