ข้อความต้นฉบับในหน้า
คนดีต้องเห็นโทษของอบายมุข
•
๗๓
๖. โทษของความเกียจคร้าน
คนเกียจคร้านในโลกนี้อาจแบ่งเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ได้ ๒ กลุ่ม
คือ กลุ่มที่เกียจคร้านโดยขันธสันดาน กับ กลุ่มที่เกียจคร้านอัน
เนื่องมาจากอบายมุขทั้ง 5 ประการ ข้างต้น
การทํางานประกอบอาชีพเป็นหน้าที่ของทุกคน เพราะ
ทุกคนมีชีวิตอยู่ได้ด้วยปัจจัย ๔ การทำงานประกอบอาชีพ ก็เพื่อ
หาทรัพย์สินมาเป็นเครื่องแลกเปลี่ยนปัจจัย ๔ รวมทั้งเพื่อ
สงเคราะห์ญาติมิตร ตลอดจนเพื่อการบริจาคเป็นทานกุศล สั่งสม
ไว้ในภพชาติเบื้องหน้าต่อไป
คนที่เกียจคร้าน ไม่ยอมทำงาน หรือทำงานคั่งค้าง ไม่
ตั้งใจทํามาหากิน ปล่อยเวลาให้ล่วงไปๆ ถือว่าเป็นคนที่ตายแล้ว
ทางด้านความคิดและความดี
คนบางคนเกียจคร้านในการทำงาน ทั้งๆ ที่ยากจน จึง
ต้องหาวิธีเอาตัวรอด ด้วยการทำตัวเป็นกาฝากอาศัยคนอื่นบ้าง
ทำลายสิ่งแวดล้อมและแหล่งทรัพยากรธรรมชาติ เพื่อหาทรัพย์มา
ใช้จ่ายบ้าง ส่วนคนมีเงินมีมรดกที่เกียจคร้านในการทำงาน ก็อาจ
จะปล่อยเวลาให้ล่วงไปกับอบายมุขต่างๆ เหล่านี้คือที่มาแห่งความ
เสื่อมโทรมทางด้านศีลธรรมทางเศรษฐกิจ
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแสดงนิสัยและพฤติกรรมของ
คนเกียจคร้านไว้ให้ดูพอเป็นตัวอย่าง 5 ประการด้วยกัน คือ
๑) มักอ้างว่าหนาวนัก แล้วไม่ทำงาน
๒) มักอ้างว่าร้อนนัก
แล้วไม่ทำงาน