ข้อความต้นฉบับในหน้า
คุณสมบัติของคนดีที่โลกต้องการ
กรรมชั่วทางใจเหล่านี้ ส่งผลให้เกิดกรรมชั่วทางวาจาคือพูดร้ายๆ เช่น
พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดคำหยาบ พูดเพ้อเจ้อ นินทา กรรมชั่ว
ทางใจ รวมทั้งทางวาจา ก่อให้เกิดกรรมชั่วทางกายต่อไปอีก เช่น
ต่อย ตี เข่นฆ่า เบียดเบียน ล้างผลาญผู้อื่น
ในบางกรณี กิเลสอาจเปรียบได้กับเมฆหมอกปกคลุมใจคน
ให้มืดมิด คิดอะไรไม่ออก หรือถ้าคิดออก ความคิดนั้นก็ไม่สร้างสรรค์
แต่เป็นความคิดด้านทำลาย
ดังนั้น กรรมกิเลส จึงเป็นการกระทำของคนที่ตกอยู่ในอำนาจ
กิเลส ซึ่งล้วนแต่เป็นกรรมชั่ว เป็นบาปกรรม คนดีมีสติ
สัมปชัญญะบริบูรณ์ ย่อมไม่ทำกรรมกิเลสโดยเด็ดขาด
กรรมกิเลสที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ในสิงคาลกสูตรนี้
มี ๔ ประการ คือ
๑) ปาณาติบาต หมายถึง การฆ่า การประทุษร้ายกัน รวม
ทั้งการเบียดเบียนกันทางกาย ด้วยวิธีต่างๆ
๒) อทินนาทาน หมายถึง การถือเอาของที่เขามิได้ให้ การ
ลักขโมย การโกง การละเมิดกรรมสิทธิ์ ตลอดจนการทำลาย
ทรัพย์สินของผู้อื่น
๓) กาเมสุมิจฉาจาร หมายถึง ความประพฤติล่วงเกินหรือ
ประพฤติผิดทางเพศ การล่วงละเมิดบุคคลที่ผู้อื่นรักใคร่หวงแหน
๔) มุสาวาท หมายถึง การพูดเท็จ ส่อเสียด หลอกลวง
ตลอดจน การนินทาว่าร้าย แม้การให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ โดยมิได้
ไตร่ตรองให้รอบคอบก็จัดอยู่ในข้อนี้
•
๓๓