ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตะแกรงกายสิทธิ์ร่อนหาคนดี
•
๙๙
จากพุทธภาษิตนี้ ย่อมหมายความว่า คนประเสริฐหรือคนดี
คือผู้ที่รู้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก อะไรผิด อะไรบุญ อะไรบาป
อะไรควร อะไรไม่ควร แล้วดำเนินชีวิตด้วยการเลือกทำแต่สิ่งที่ดี
ถูกต้อง สมควร เป็นบุญและพอเหมาะพอควร
แม้น้อยก็ไม่ยอมแตะต้อง อาจกล่าวโดยสรุปได้ว่า คนดี คือคนที่
มีปรกติ ๓ ประการคือ
สิ่งใดเป็นบาป
15
๑) คิดดี คือ ไม่คิดโลภ ไม่คิดพยาบาท มีสัมมาทิฏฐิ
๒) พูดดี คือ ละเว้นมุสาวาทกรรมกิเลสข้อ ๔) ได้เด็ดขาด
๓) ทำดี คือ ละกรรมกิเลส ๓ ข้อแรกได้เด็ดขาด หรือ
รักษาศีล ๓ ข้อแรกได้บริสุทธิ์บริบูรณ์
เพราะฉะนั้น คนดีจึงเป็นผู้สมบูรณ์ด้วยศีล มีศีล ๕ เป็น
อย่างน้อย นั่นคือละกรรมกิเลส ๔ ได้โดยเด็ดขาด มีใจบริสุทธิ์
สะอาด สว่าง และละเอียดอ่อน กิเลสบีบคั้นใจคนดีไม่ได้
เนื่องจากมีศีลและสัมมาทิฏฐิ คนดีจึงละอคติ ๔ และอบายมุข 5
๒ สัมมาทิฏฐิระดับต้น ประกอบด้วย
๑) การให้ทานเป็นสิ่งดีจริง ควรทำ
๒) การบูชาคนที่ควรบูชาเป็นสิ่งดีจริง ควรทำ
๓) การสงเคราะห์กันเป็นสิ่งดีจริง ควรทำ
๔) ทำดีได้ดีจริง ทำชั่ว ได้ชั่วจริง
๕) โลกนี้โลกหน้ามีจริง ตายแล้วไม่สูญ
5) มารดาบิดามีพระคุณต่อเราจริง ควรตอบแทนพระคุณท่าน
๗) สัตวโลกเกิดในโอปปาติกะ มีจริง
๔) พระอรหันต์ในโลกนี้ มีจริง