ข้อความต้นฉบับในหน้า
ตะแกรงกายสิทธิ์ร่อนหาคนเลว
๗๙
คนเราจะเจริญตามลำพังตัวเองไม่ได้
ถึงแม้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะตรัสว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ” แต่พระองค์ก็ทรงให้ความสําคัญกับ
เพื่อนมนุษย์ที่อยู่ร่วมสังคมเป็นอย่างยิ่ง กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทรง
เห็นว่า คนเราจะเจริญ ได้ดิบได้ดีโดยลำพังตนเอง ไม่ต้องพึ่งพา
อาศัยผู้อื่นหรือเพื่อนพ้องในสังคมนั้น เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
แม้พระองค์ซึ่งเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังต้องทรงพึ่งพา
อาศัยผู้อื่น นับตั้งแต่ประสูติ ก็ต้องทรงอาศัยพระน้านางคือพระนาง
มหาปชาบดี ทรงเลี้ยงดูอุ้มชูมา เมื่อทรงเจริญวัย ก็ได้ทรงอาศัย
พราหมณ์วิศวามิตร เป็นครูสอนศิลปวิทยาอันเป็นความรู้พื้นฐาน
ของชาวโลกให้ ครั้นเมื่อเสด็จออกบรรพชา ก็ได้ทรงอาศัยนักบวช
๒ รูปคือ อาฬารดาบส กับ อุทกดาบส เป็นอาจารย์สอนสมาธิให้
จนกระทั่งทรงบรรลุสมาบัติ ๘ ขณะที่เสด็จไปทําเพ็ญทุกกรกิริยา
ก็ได้ทรงอาศัยพระปัญจวัคคีย์ติดตามอุปัฏฐากอำนวยความสะดวก
ต่างๆให้ แม้ในวันตรัสรู้ ก็ได้ทรงอาศัยนางสุชาดาถวายข้าวมธุปายาส
จึงทรงมีพละกำลังเจริญภาวนา จนกระทั่งตรัสรู้พระอนุตรสัมมา
สัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระบรมครูของพวกเรา แม้
เมื่อตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็ยังต้องทรงอาศัยปัจจัย ๔
จากพุทธบริษัทตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่า ตัวเราเองก็จําเป็นต้องพึ่งพาอาศัยผู้อื่น
เราหนีเพื่อน หนีสังคม หนีบุคคลรอบด้านไม่ได้ นั่นคือ
จำเป็นต้องคบมิตรหรือคบเพื่อน
เรา