ข้อความต้นฉบับในหน้า
ว้นที่ลงเรือมีกระเป๋าเสื้อผ้า 1 ใบ ข้างในมีงกงยืนส์ เสื้อยืดและชุดมีสีขาวกับรองเท้าหุ้มส้นอีก 1 คู่ สำหรับใส่ฝนงานดูแลเครื่องยนต์เครื่องไฟฟ้าและเครื่องจักรใหญ่ในห้องเครื่อง นับจากนี้ไปผมจะได้ใช้ชีวิตเป็น นักเรียนฝึกฯอีกปีครึ่งจึงจะจบหลักสูตร รวมเต็มเสร็จจเป็นเวลา 5 ปี และเมื่อสำเร็จการศึกษาแล้วก็จะได้ขึ้นเป็น "นายประจำเรือ
ทันทีที่เรือมุ่งหน้าสู่ทะเลกว้าง บรรยากาศกลางทะเลนั้นผมชอบมาก ท้องฟ้าเป็นฉากที่เปลี่ยนสีได้ มองดูยังไงก็ไม่เบื่อ ก่อนเมฆก็เปลี่ยนรูปทรงไปเรื่อยๆ ไม่ซ้ำกันเลย สายลมและดวงดาวก็ช่วยกันขับกล่อมบรรเลงเป็นดนตรีเบาๆ ให้พึงก่อนนอนทุกคืน เมื่อพบเจออะไรในทะเล ผมรู้สึกประทับใจและชอบไปหมด ทุกอย่างเกินกว่าที่ผันไว้
เมื่อเดินทางถึงจุดหมาย เรือเข้าเทียบว่าในต่างประเทศ ผมได้เห็นบ้านเมือง ผู้อื่น วิธีชีวิต พบเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ที่ชวนนหลงใหล แต่ทันทีที่เรือมุ่งหน้าออกทะเลเดินทางต่อ ผมก็ได้กลับมาอยู่กับธรรมชาติ ที่สงบ ที่แต่มน้ำกับฟ้ากว้างๆ การออกทะเลทำให้ผมได้พบว่า ชีวิตของนักเดินเรือเป็นชีวิตที่คล่องตัว ไม่สะสมสิ่งใด หากจะเลือกเก็บก็จะเลือกเฉพาะที่จำเป็นต้องใช้ติดตัวไปเท่านั้น ผมคิดอยากจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนแก่ตาย
จงจบวันหนึ่ง วันที่เรือจะต้องให้นำฝามรสุม นับเป็นครั้งแรกในชีวิต ที่ผมได้เห็นคลื่นขนาดยักษ์ที่สามารถยกเรือสำเภาใหญ่ของผมโยนลอย ขึ้นไปในอากาศเหนือลอดคลื่น แล้วก็ปล่อยให้ตกลงมากระแทกกับผิว น้ำจนเกิดเสียงดัง ก็กล่อม คลื่นยักษ์โยนเรือขึ้นๆ ลงๆ อย่างนี้ทั้งวันทั้งคืน บางทีที่เหนื่อยไปมากคล้ายคนไวกว่าปล่อยอย่างสุดแรง เมื่อได้เจออย่างนี้ผมรู้สึกว่านี่เป็นเรื่องที่น่าสนุกและตื่นเต้นมากขึ้นทีเดียว
เริ่มเข้าสู่วันที่ 4 ที่ 5 ด้านนอกตัวเรือสายฝนก็ยังกระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่อง ท้องทะเลเป็นป่วน คลื่นยักษ์ที่บ้าคลั่งลูกแล้วลูกเล่า ยังเล่นงานเรือไม่อยอมหยุด ราวกับต้องการจะจมเรือล่มริน สู่สันมหาสมุทร