ข้อความต้นฉบับในหน้า
เวลาผ่านไปนานเท่าไรไม่รู้ มารู้สึกตัวอีกทีก็เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูห้อง ถึงเวลาเข้ายามอีกแล้ว สภาพภายนอกพายุยังไม่สงบ สภาพภายในของผมก็แย่พอๆ กัน จนผมไม่แน่ใจว่าจะผ่านมรสุมครั้งนี้ได้หรือไม่ เรือฝ่าพายุทั้งวันทั้งคืนมาได้อาทิตย์ยาวแล้วในที่สุดก็เล่นผ่านพ้นเขตรุมรสุม ทุกอย่างก็กลับสู่บรรยากาศปกติ ผมดีใจที่ยังมีชีวิตอยู่จะด้วยเหตุใดก็ตามที่รอดพ้นมาได้อย่างปลอดภัย แต่ทำให้ผมได้ ข้อเตือนใจตัวเองว่า เราไม่ควรประมาทในการใช้ชีวิต ทันทีที่เรือเข้าทีบ ท่าเมืองไทย สิ่งแรกที่ผมต้องการทำ คือ การเข้าวัดทำบุญ เข้าไปรด หลอดพ่อ ซึ่งท่านก็ได้เมตตาให้หลักสำคัญของชีวิตในเรื่องของสมาธิแก่ ผม และเมื่อออกเดินทางต่อ ผมจึงออกทะเลอย่างสุขใจมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า เพราะเมื่อจากงาน ผมก็จะแต่งขึ้นไปบนดาดฟ้า เรือ มองท้องฟ้าและผืน น้ำที่กว้างใหญ่ ผมชอบที่จะอยู่ที่โล่งกว้างกลางทะเลเช่นนี้ พอใจสบายแล้วผมก็จึงนั่งหลับตา นึกถึงพระที่ห้อยคอ เอาท่านมาไว้ที่กลางท้องตามที่หลวงพ่อสอนและอธิษฐานขออนุญาตุที่ผมได้ทำมาให้ช่วยคุ้มครอง ผมยืนยันใจว่า ชีวิตเดินเรือนี้เป็นชีวิตที่ดีสำหรับผม ผมอยากจะใช้อย่างนี้ไปเรื่อยๆ
หลังจากออกทะเล ฝึกงานในเรือสินค้าจนครบกำหนดตามหลักสูตร ผมกลับรายงานตัวที่โรงเรียนและสอบประเมินผลครั้งสุดท้าย จากนั้นจึงสำเร็จการศึกษา แต่ก่อนก่อนพิธีรับใบประกาศ ผมได้รับข่าวว่าพี่น้องร่วมคนหนึ่งประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตที่บริเวณเรือ หลังผม คงนี้จะไม่สนกันมากนัก แต่ก็รู้สึกใจหาย โอกาสที่สดใสในอนาคตบูงปลั้นที ทุกอย่างจบหมดสิ้น ข่าวร้ายนี้มาเตือนสติให้รู้ถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และเป็นอีกครั้งที่เตือนอย่าฝันว่า...อย่าประมาท