ความจริงเกี่ยวกับการมองเห็นทางจิตใจ แรงบันดาลใจจากพระไตรปิฎก หน้า 75
หน้าที่ 75 / 264

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความเหมือนระหว่างคนตาบอดที่คลำหาช้างกับมนุษย์ที่เข้าใจธรรม เมื่อไม่รู้สิ่งจริงที่มีอยู่ ทำให้เกิดการทะเลาะวิวาท และส่วนมากเป็นเช่นนั้นในโลกแห่งวัฏสงสาร การปิดตาใจทำให้เราไม่เห็นความจริง และทางเดียวที่จะพ้นจากความไม่รู้คือการหยุดนิ่ง เปิดใจให้เห็นความจริง โดยคำสอนนี้ชี้ว่าเมื่อใจบริสุทธิ์ จึงจะเห็นสัจธรรมและพ้นจากการเป็นคนตาบอดทางจิตใจได้

หัวข้อประเด็น

-การมองเห็นทางจิตใจ
-ความไม่รู้และการทะเลาะวิวาท
-การตื่นรู้ในชีวิต
-การพ้นทุกข์
-การเปิดใจและหยุดนิ่ง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระมหาเถร รุ่นปี ๒๕๔๔ คนตาบอดพวกที่คลำหางช้าง กราบทูลอย่างนี้ว่า "ช้างมีรูปร่างเหมือนสากตำข้าว" พระเจ้าข้า คนตาบอดพวกที่คลำขาหางช้าง กราบทูลอย่างนี้ว่า "ช้างมีรูป่างเหมือนไม้กวาด พระเจ้าข้า" ภิญฑ์หลาย คนตาบอดเหล่านั้นต่างกำมัดทุ่มเทียงกันว่า "อย่างนี้คือช้าง อย่างนี้ไม่ใช่ช้าง ต้องไม่เป็นอย่างนี้ ช้างต้องเป็นอย่างนี้" ภิกษุทั้งหลาย พระราชพระองค์นั้นจึงทรงพอพระทัย ด้วยเหตุนี้ ภิญฑ์ทั้งหลาย อัญเดียรีย์ปริพาชกเป็นคนบอด ไม่มีจักษุจี่ไม่รู้ประโยชน์ ไม่รู้สิ่งที่มีประโยชน์ ไม่รู้ธรรม ไม่รู้สิ่งที่มีธรรม เมื่อไม่รู้ฯ ธ ก็เกิดการบาดหมางกัน ทะเลาะวิวาทกัน ใช้หอกค้อมกัด teamแทนกันว่า "อย่างนี้เป็นธรรม อย่างนี้ไม่ใช่ธรรม ธรรมต้องไม่เป็นอย่างนี้ ธรรมต้องเป็นอย่างนี้" มนุษย์ผู้มิตดีก็ดังหลายในโลกนี้ ส่วนมากก็เป็นเช่น "คนตาบอด" ในวัฏสงสาร เพราะถูกอวิชชา ความไม่รู้ ปิดบังไว้ ดังนั้น เราทานอาจเป็นหนึ่งในพวก "ตาบอดคำช้าง" โดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ หนทางว่างที่จะพ้นจากความเป็นคนบอดได้ คือ "ปิดตา เปิดใจ รวมจิตให้หยุดนิ่งเป็นหนึ่งที่คุณกลางกาย" เมื่อใจบริสุทธิ์ ย่อมเกิดความสว่างไสว ทำลายความมืดบอดให้สิ้นไปได้ เมื่อนั้นเราจึงจะได้เป็น "คนตาดี" อย่างแท้จริง
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More