ข้อความต้นฉบับในหน้า
หรือเพียงแค่นิสัยชอบนอนตื่นสาย พูดไม่เพราะชอบเถียงพ่อเถียงแม่ ก็
หากุศโลบายมาแก้ไขกันหืดขึ้นคอ รวมทั้งการจะฝึกตัวเองให้ละเอียด
ลออไม่สะเพร่า ลุ่มลึกไปตามลำดับจึงไม่หมู เพียงแค่ไม่กี่เรื่องนี้ ก็
ฝึกฝนตนเองทั้งชาติ ซึ่งยังไม่นับรวมนิสัยอิจฉาตาร้อน ติดเหล้า ติดการ
พนัน
ดังนั้น ครอบครัวจะมีรากฐานมั่นคงอยู่ได้ ทุกคนในบ้านจะต้องมี
ทมะ เป็นนิสัยที่ ๒
๓) ขันติ แก้ปัญหาความเบื่อหน่ายกันเอง
ขันติ แปลว่า ความอดทน
ทําไมจะต้องอดทน ? เพราะการที่คนใดคนหนึ่งจะได้ความดีมาเพิ่ม
ให้แก่ตนเองนั้น จะต้องเอาความอดทนแลกมาทั้งนั้น
อ
เมื่อเกิดเป็นคนแล้ว จะต้องอดทนต่ออะไรบ้าง?
คำตอบ คือ เรื่องที่ต้องพยายามอดทนให้ได้มีอยู่ ๔ เรื่องด้วยกัน
๓.๑) ต้องอดทนต่อธรรมชาติที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ทนทั้งแดดที่
แผดกล้า ทั้งลมทั้งฝนที่โหมกระหน่ำ เป็นต้น
๓.๒) ต้องอดทนต่อทุกขเวทนา คือ อดทนต่อสภาพสังขารร่างกาย
ที่ไม่เอื้ออำนวย เช่น ทนฝืนความเจ็บไข้ได้ป่วย ไม่โวยวายคร่ำครวญจน
เกินเหตุ
๓.๓) ต้องอดทนต่อการกระทบกระทั่ง คือ อดทนคนอื่น
ความจริงแล้ว เราก็ต้องยอมรับว่า เราเองยังมีข้อบกพร่องที่ทำไป
แล้ว ยังรู้สึกขัดใจ ไม่ได้ดั่งใจตัวเองหลายอย่าง ยิ่งเวลาทำงานเร่งรีบ
ต้องการความประณีตมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยังมีเรื่องขัดใจตัวเองจนได้
การที่หลายครั้งเราเองก็ยังไม่ค่อยถูกใจตัวเอง นั่นคือข้อ
บกพร่องที่กลายเป็นนิสัยไม่ดี แล้วเราสังเกตไม่เห็น ยังมีอยู่อีกมาก
ข้อบกพร่องของภรรยาสามี ของลูกที่เขามี บวกกับข้อบกพร่อง
ของตนเองเข้าไปอีก ยังไงก็ต้องกระทบกระทั่งกัน
เพราะฉะนั้น สามีภรรยาอยู่บ้านหลังเดียวกัน ถึงแม้ว่าเขาจะดี
แสนดียังไง ก็ยังต้องมีข้อบกพร่องอยู่ดี ถ้าเราคิดว่าอดทนไม่ได้ ก็อย่า
ใจอ่อนไปแต่งงาน
แต่เดี๋ยวนี้มีบางคนหลังจากแต่งงานกันไปแล้วมักชอบใช้คำว่า สิทธิ
ส่วนบุคคล พอแต่งงานกันแล้ว ก็ยังไปทำเอกสารแบ่งทรัพย์สมบัติ เตรียม
แยกกันแล้ว ก็ทำให้มีคำถามเกิดขึ้นมาว่า ถ้าคิดว่าจะทนกันไม่ได้ตั้งแต่
แรกอย่างนี้ แล้วไปแต่งกันทำไม
โบราณจึงสั่งนักสั่งหนาว่าถ้าตกลงปลงใจจะเป็นสามีภรรยากัน “ลิ้น
กับฟันต้องกระทบกันแน่"
เพราะฉะนั้น คู่ครองของเราจะดีวิเศษอย่างไร เรื่องกระทบใจต้อง
มีกันแน่ ถ้าคิดว่าทะเลาะกันแล้ว จะไม่ทนกัน อย่ามาแต่งงานกันเลย
แต่ถ้าทําใจได้ คิดว่าจะทนทั้งเขา และญาติฝ่ายเขาให้ได้ ก็ต้องคุยกันให้
ดีว่าจะทนกันอย่างไร มากกว่าที่จะไปคุยเรื่องอื่น
คำถามที่ควรจะถามกันและกันก่อนแต่งงาน ก็คือ “คุณแน่ใจหรือ
ว่าจะทนฉันได้" ถ้าไม่แน่ใจว่าเราจะทนกันได้ อย่าแต่งงานกันเลย เดี๋ยว
จะก่อทุกข์ก่อบาปจากคู่รักกลายเป็นคู่แค้นในภายหน้า เราแยกกันตรงนี้
เถิด นี่ควรเป็นคำถามที่ทั้งคู่ควรถามใจตัวเองก่อนแต่งงาน
ดังนั้น แทนที่จะไปถามว่าแหวนหมั้นที่กระรัต เงินสดเท่าไหร่
เรือนหอกี่ล้าน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ความมั่นคง สิ่งที่ต้องถามคือ “คุณแน่ใจหรือ
ว่าจะทนฉันได้"
Kont
ค