ข้อความต้นฉบับในหน้า
ชีโว) ซึ่งได้อธิบายหลักการทำบุญที่สมบูรณ์แบบไว้ดังนี้
“ในเรื่องของการทําบุญในพระพุทธศาสนา พระพุทธองค์ตรัสไว้
โดยย่อว่ามี ๓ วิธี คือ
การให้ทาน การรักษาศีล และเจริญภาวนา
๑. การให้ทาน ได้แก่ แบ่งปันทรัพย์สิ่งของที่เป็นประโยชน์ ให้
แก่บุคคลที่สมควรได้รับทานนั้น โดยไม่ถึงกับทำให้ตัวเองเดือดร้อน ซึ่ง
โดยทั่วไปแล้วชาวพุทธนิยมทำบุญด้วยการให้ทานกับพระภิกษุ บ้าง ผู้มี
ศีลบ้าง เป็นประจําสม่ำเสมอ
๒. การรักษาศีล คือการสํารวมกาย วาจา ไม่ให้ทาความเดือด
ร้อน ทั้งแก่ตนเองและผู้อื่น ซึ่งอย่างน้อยต้องรักษาศีล ๕ เป็นประจำ
ทุกวัน
หากมีโอกาสในวันโกน วันพระ หรือวันหยุดงานประจำสัปดาห์
ชาวพุทธนิยมรักษาศีล ๘ เพื่อให้ได้บุญเพิ่มเป็นพิเศษขึ้นมาอีก บาง
ท่านอาจจะปรับให้เหมาะสมกับธุรกิจการงานที่ทำอยู่ โดยรักษาศีล ๘
เป็นประจํา ในวันใดวันหนึ่ง ทุกๆ ๗ วัน
๓. การเจริญภาวนา ได้แก่ การทำบุญด้วยการฝึกใจให้ผ่องใส
เป็นสมาธิ ด้วยการศึกษาธรรมะ และสวดมนต์ไหว้พระ เพื่อทำใจให้สงบ
ผ่องแผ้ว ปลอดโปร่ง แจ่มใส เป็นประจำทุกคืนๆ ก่อนนอน อย่างน้อย
คืนละ ๒๐ นาทีถึง ๑ ชั่วโมง
ง่ายๆ ว่า
โดยทั่วไปแล้ว การทำบุญ ทั้ง ๓ วิธีนี้ ชาวพุทธถือหลักปฏิบัติ
เช้าใด...ยังไม่ได้ทําทาน เช้านั้นก็จะยังไม่รับประทานอาหาร
วันใด....ยังไม่ตั้งใจรักษาศีล วันนั้นก็จะยังไม่ออกไปนอกบ้าน
เข้านอน
คืนใด....ยังไม่ได้สวดมนต์เจริญสมาธิภาวนา คืนนั้นก็จะยังไม่
เมื่อได้สร้างบุญเป็นประจำอย่างนี้แล้วเป็นอันหวังได้ว่าชีวิตจะไม่มี
วันตกต่ำ อนาคตจะมีแต่ความก้าวหน้า สิ่งใดที่ตนปรารถนาก็จะได้สิ่ง
นั้นมาโดยง่าย ด้วยอำนาจของบุญที่ทำมาดี แล้วทั้ง ๓ ประการข้างต้น
ที่สำคัญ ก็คือ ทั้ง ๓ วิธีนี้ เป็นการทำให้จิตใจผ่องใส อย่างเป็น
ขั้นเป็นตอนที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไป
ทําไมถึงต้องทําให้ใจผ่องใส ? เพราะว่า คนเราลองว่าถ้าใจผ่องใส
เดี๋ยวก็อารมณ์ดี พออารมณ์ดี ก็อยากคิดดี พูดดี และท่าดีตามมา
สําหรับก้าวแรกของการทำบุญ หลวงพ่อก็ขอแนะนำให้เริ่มต้นที่
การท้าทานก่อนเป็นอันดับแรก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ว่า การให้ทานที่จะได้บุญมาก จะ
ต้องทําให้ทานนั้นครบองค์ประกอบ ๔ ประการดังนี้ คือ
๑. วัตถุบริสุทธิ์ ได้แก่ สิ่งที่จะให้ทานต้องเป็นของที่เกิดจากน้ำ
พักน้ำแรงของเราเอง ไม่ได้คดโกงใครเขา
๒. เจตนาบริสุทธิ์ ได้แก่ มีความตั้งใจที่จะให้ทาน เพื่อกำจัด
ความตระหนี่ ความเห็นแก่ตัว ฆ่าความโลภให้สิ้นไป ไม่ได้หวังลาภ ยศ
สรรเสริญ เป็นเครื่องตอบแทน แต่มีความตั้งใจที่จะเสียสละ ให้เกิดเป็น
บุญกุศลจริงๆ และการหวังได้บุญ ไม่ใช่เป็นความโลภนะ ขอให้
พิจารณาแยกแยะกันให้ดี เพราะว่าเอาความตระหนี่ออกจากใจ แล้วเอา
บุญมาแทนที่ความตระหนี่ในใจ
ต.
ผู้ให้บริสุทธิ์ คือตัวผู้ให้ทานเอง ต้องมีศีล ๕ เป็นอย่างน้อย
Hoax] Why
board