ความเป็นชาวพุทธที่มีเหตุผล ครอบครัวอบอุ่น หน้า 117
หน้าที่ 117 / 198

สรุปเนื้อหา

ชาวพุทธที่แท้จริงควรคำนึงถึงประวัติศาสตร์ของศาสดา ควรมีตัวตนที่ชัดเจน มีความรู้และคุณธรรม ทำให้สามารถปฏิบัติตามคำสอนเหล่านั้นได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือศาสดาที่มีประวัติที่มั่นคง มีความสามารถในการค้นคว้าหาสัจธรรมและพัฒนาคำสอนที่ไม่เคยล้าสมัย คำสอนที่พระองค์ตรัสมีความจริงที่สามารถนำไปปฏิบัติและสร้างผลดีได้ และเป็นทางเลือกที่ไม่ควรพลาด

หัวข้อประเด็น

-ความเป็นชาวพุทธ
-ความสำคัญของคำสอน
-การเลือกศาสดา
-สัจธรรมในคำสอนพระพุทธเจ้า
-พระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ชาวพุทธที่แท้จริงเป็นคนมีเหตุผล ไม่ใช่คนงมงายเชื่อง่าย การที่ คนใดคนหนึ่งจะเลือกใครมาเป็นศาสดาที่เคารพของตนนั้น ที่ถูกต้องแล้ว เขาควรจะต้องคำนึงถึงประวัติของศาสดานั้นๆ เสียก่อนว่า ๑. เป็นบุคคลที่มีประวัติชัดแจ้งว่ามีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์ โลก ไม่ใช่เป็นเพียงบุคคลที่ประวัติไม่ชัดแจ้ง หรือคลุมเครือ ไม่น่าเชื่อถือ ๒. เป็นบุคคลที่มีสติปัญญาความรู้และคุณธรรมมาก รู้เรื่อง โลกและชีวิตอย่างลึกซึ้งที่เรียกว่าตรัสรู้ และคิดค้นคำสอนได้ด้วยตนเอง ไม่ใช่แอบอ้างเอาค่าสั่งสอนของคนอื่นมาสอนต่อ คือต้องเป็นผู้ที่มีความ รู้จริง มีความสามารถจริงด้วยตัวเอง ๓. คำสั่งสอนของศาสดานั้นๆ เป็นคำสอนที่สาวกหรือลูกศิษย์ สามารถประพฤติปฏิบัติตามจนบังเกิดผลดีได้ หรือมีความสุขได้จริง ถ้า ไม่มีใครสามารถประพฤติตามค่าสอนเหล่านั้นได้เลย ก็แสดงว่าคำสอน เหล่านั้นไร้ประโยชน์ เพราะใครๆ ก็ทำตามไม่ได้ เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์เหล่านี้แล้วก็จะทราบว่าการที่ชาวพุทธ เคารพนับถือพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่าเป็นที่พึ่งสูงสุดอย่างเต็มภาคภูมิ เพราะเหตุที่สอดคล้องกันทั้ง ๓ ประการ คือ ๑) พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบุคคลที่เคยมีตัวตนจริงอยู่ในโลก มนุษย์ ประวัติศาสตร์รับรองและระบุถึงผู้ให้กำเนิดชีวิตแก่พระองค์อย่าง ชัดแจ้งเหมือนมนุษย์ทั่วไป ยิ่งกว่านั้นยังทรงมีชาติตระกูลสูง คือเป็นถึง พระโอรสของกษัตริย์ ซึ่งบ้านเมืองที่เคยรุ่งเรืองในประวัติศาสตร์ มี ตำแหน่งแหล่งที่ปรากฏอยู่ในแผนที่โลกมาถึงปัจจุบัน ๒) พระองค์ทรงกระทำความเพียรค้นคว้าหาสัจธรรมโดยลำพัง จนได้ตรัสรู้เอง ทรงบัญญัติคำสอนโดยใช้ความสามารถของพระองค์ เองโดยแท้ไม่ได้รวบรวมค่าสอนของคนอื่นมาอ้างว่าเป็นของตนเอง หรือ ค่าสอบของพระองค์ที่เราเรียกว่า “พระธรรม” จิงเป็นความจริง ไม่เคยล้าสมัย แม้ทุกวันนี้หาก ใครประพฤติตามย่อมได้รับผลดี คือไม่ตกไปสู่ จานะอันชั่วตา อ้างเลยไปถึงว่าได้นำคำสอนของผู้มีอำนาจบนสวรรค์มาสอน ซึ่งเท่ากับ เป็นการอาศัยอิทธิพลของผู้อื่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประกาศชัดว่า ตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง ไม่อยู่ในอาณัติของใคร ไม่เป็นทาสรับใช้ใคร และไม่บังคับให้ใคร เชื่อคำสอนของพระองค์ ๓) คำสอนของพระพุทธองค์ทุกๆ คำ เป็นสัจธรรม คือเป็น ความจริงล้วนๆ ที่ไม่เคยล้าสมัย ข้อใดที่พระองค์ตรัสว่าควรกระทำ ข้อ นั้นถ้าใครตั้งใจทําตามก็ได้ผลดีจริงส่วนข้อใดที่พระองค์ตรัสว่าควรละเว้น ถ้าหากใครฝ่าฝืนไปทำ ก็ได้รับผลเป็นความทุกข์จริง ฉะนั้น ค่าสอนของพระองค์ที่เราเรียกว่า “พระธรรม" จึงเป็นความ จริงที่ไม่เคยล้าสมัย แม้ทุกวันนี้หากใครประพฤติตามย่อมได้รับผลดี คือไม่ตกไปสู่ฐานะอันชั่วต่ำ เช่น ไม่ตกไปเป็นโจรไม่เป็นอันธพาล ไม่ ศ lood decade ครีม เจ้า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More