ข้อความต้นฉบับในหน้า
ใจให้ท่านสั่งสมบุญให้แก่ตัวท่านเอง ท่านจะได้หมดห่วงในตัวเราเพราะ
ได้บวชเรียนศึกษาธรรมะแล้ว
เดินเข้าใกล้ความตายไปทุกวัน
การตัดสินใจบวชของผู้เขียน เริ่มต้นหลังจากเรียนจบปีสุดท้าย
เหตุเพราะว่า เมื่อมาทบทวนชีวิตตนเองแล้ว ก็เห็นว่า ชีวิตของคน
เราไม่แน่นอน บางครั้งเห็นหน้ากันตอนเช้า แต่ตอนเย็นก็กลับไม่ได้เห็น
กันอีกตลอดชีวิต
หลายครั้งที่เวลาไปร่วมงานศพ ได้เห็นพ่อแม่ต้องมาจัดงานศพ
ให้ลูก เห็นตากับยายต้องมาจัดงานศพหลาน ซึ่งมันไม่น่าจะเป็นอย่างนี้
เราเองก็ไม่อยากมีวันอย่างนี้หรอก แต่เพราะชีวิตมันไม่แน่นอน การได้
บวชเสียก่อน ย่อมเป็นการดีกว่า
ต่อมา แม่ก็เริ่มสุขภาพไม่แข็งแรง ยายก็ชราภาพลงไปมาก มีความ
กลัวว่าถ้าบวชช้าไปกว่านี้ ท่านอาจจะจําพระลูกหลานตัวเองไม่ได้ ควรจะ
บวชเสียตอนที่เพิ่งเรียนจบนี้แหละ
แต่แล้ว ทั้งที่ตั้งใจมาอย่างดี การตัดสินใจก็ถูกแทรกแซง เพราะ
เมื่อเรียนจบใหม่ๆ ก็ได้งานดี เมื่อโอกาสเปิดอย่างนี้แล้ว ใจก็มีเรื่องงาน
มาก่อนเรื่องของแม่ ความคิดที่จะบวชให้แม่กับยายก็ทำท่าจะเลื่อนออก
ไปอีก
แต่ก็นับเป็นบุญของผู้เขียนอยู่เหมือนกัน ที่วันหนึ่ง หลวงพ่อที่
เคารพรัก ท่านทราบข่าวว่าจะบวช ท่านก็กรุณามาโปรดถึงที่บ้าน
พอท่านเห็นหน้า คำแรกที่พูดกัน ท่านออกปากชวนว่า “พรรษานี้
ไปบวชนะ"
ขณะนั้นก็สองจิตสองใจอยู่ สุดท้ายก็ตอบท่านกลับไปว่า “ตอนนี้
ผมรับผิดชอบงานของบริษัทอยู่ ผมเกรงใจเขาครับ
Blogol
เหมือนกับว่าหลวงพ่อท่านรู้ทันความคิด ท่านก็เตือนสติว่า “เวลา
เอ็งตาย เขาก็คงไม่มากรวดน้ำให้เอ็งหรอก”
ค่าสอนของท่านเหมือนฟ้าผ่าลงมากลางความมืด ทำให้ได้คิดขึ้น
มาทันทีว่า “ถ้าเราตายไปตอนนี้ คนที่จะกรวดน้ำให้เรา ก็คือแม่กับยาย
นั่นแหละ”
พอได้คิดอย่างนี้ จึงรีบรับปากกับหลวงพ่อท่านว่า “ครับ พรรษา
นี้ ผมจะไปบวช" แล้วก็ได้บวชเพราะคำเตือนสติของหลวงพ่อแท้ๆ แม่กับ
ยายจึงได้มีโอกาสเห็นผ้าเหลืองของพระลูกชายสมใจสักที
บุญที่ได้จากการบวชพระลูกชาย
เมื่อผู้เขียนบวชเป็นพระภิกษุแล้ว ก็ได้พบว่าคนไทยเชื่อกันว่าการ
บวชพระลูกชาย เป็นการทดแทนบุญคุณพ่อแม่ แต่หลายคนก็ยังนึกไม่
ออกว่า ลูกชายบวชแล้วจะทดแทนบุญคุณพ่อแม่ได้อย่างไร ในเมื่อก็เห็นๆ
กันอยู่ว่าบวชแล้ว ก็ไปบิณฑบาต ไปทำความดีตามลำพัง ทิ้งพ่อทิ้งแม่
ทิ้งครอบครัวเสียด้วยซ้ำ
ครั้งหนึ่งก็มีคนไปถามหลวงพ่อที่ผู้เขียนไปบวชอยู่วัดของท่าน
ด้วยคำถามทำนองนี้เหมือนกัน ท่านก็เมตตาอธิบายให้เกิดแสงสว่างใน
ใจขึ้นมา จึงขอน้อมน่าคาสอนของท่านมาอธิบายไว้ดังนี้
“เรื่องความเชื่อ ใครจะเชื่ออย่างไรก็เรื่องของเขา ส่วนเราซึ่งเป็น
ชาวพุทธ และเป็นคนรุ่นใหม่ จะตัดสินใจเชื่ออย่างไรควรพิจารณาดูเหตุ
ดูผล เหตุผลตามหลักของพระพุทธศาสนาบอกไว้ว่า “ใครทำดีคนนั้นก็ได้
ดี ใครทำชั่วคนนั้นก็ได้ชั่ว ใครทำใครได้
ลูกบวชลูกก็ต้องได้บุญ ในฐานะที่ได้ฝึกหัดขัดเกลาตัวเองตามคำ
สั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ครีม Hogel wally