ข้อความต้นฉบับในหน้า
ไปนั่งสมาธิไป ลูกที่อยู่ในท้องก็ซุ่มหัวอกหัวใจตามเข้าไปด้วยทั้งแม่ทั้งลูก
“เพราะฉะนั้น ความแตกต่างของคนในโลกนี้ ก็มีผลมาจากผลกรรม
ในอดีต และผลกรรมในปัจจุบันทั้งสิ้น ส่วนหนึ่งเราแก้ไขไม่ได้เพราะมัน
ติดตัวเรามาจากอดีต อีกส่วนหนึ่งเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นใหม่
“พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงย้ำนักย้ำหนาว่า เราอย่าได้ก่อเวรเพิ่ม
มิเช่นนั้น บาปที่เราก่อในวันนี้ จะตามไปส่งผลเราอย่างแน่นอนในวันหน้า
ขึ้นชื่อว่ากรรมชั่ว แม้เพียงเล็กน้อยไม่ท่าเสียดีกว่า
“เพราะฉะนั้น หัวใจของพระพุทธศาสนาจึงมีว่า ละเว้นความชั่ว
ทําความดี กลั่นจิตใจให้ผ่องใส ทั้ง ๓ ประการนี้ คือการทําความดี เมื่อ
เราทำความดี ผลกรรมที่ดีจะส่งผลให้เราพบความสุขทันทีที่เราได้ทำ
และจะตามส่งผลให้เราสุขยิ่งขึ้น ดียิ่งขึ้นในภพชาติเบื้องหน้า
“กรรมเป็นตัวกำหนดให้เราเห็นความแปลก และความแตกต่าง
กันของคนในโลกนี้อย่างชัดเจน ใครทำความดีในอดีตมามาก ชาตินี้ก็
เกิดมาเพียบพร้อมทั้งรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และสติปัญญาที่เฉียบแหลม
ถ้าเข้าใจตรงนี้ เราจะเชื่อมั่นว่า กรรมทุกอย่างทำแล้วมีผลทั้งนั้น
“สําหรับตัวเรา เมื่อเราเกิดมาชาตินี้ จะเป็นอย่างไร ก็อดทนไป
เถิดในเมื่อเราเกิดมาแล้ว แต่ขอให้ตั้งใจทำความดีให้มากเข้าไว้ อย่ายอม
แพ้จิตใจที่ใฝ่ชั่ว อดทนให้มากๆ และวิธีทำให้ใจเข้มแข็งไม่มีอะไรเกิน
การฝึกสมาธิ ยิ่งฝึกสมาธิมากเท่าไหร่ กำลังใจในการทำความดีจะสูงส่ง
ขึ้นตามไปทีเดียว
"เมื่อเรามองทั้งโลกด้วยการเอากฎแห่งกรรมเป็นเกณฑ์เช่นนี้แล้วเรา
จะกําหนดเส้นทางชีวิตได้ตามความเป็นจริง ไม่ผิดทาง เราอยากให้เราเป็น
อย่างไร เราก็จงทําสิ่งนั้นเถิดนะ ผลกรรมมีจริง และให้ผลแน่นอน ทำดี
ต้องได้ดี ท่าชั่วต้องได้ชั่ว พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ไม่ผิดหรอก แล้ว
ba สนมัน
คำสอนนี้ก็ผ่านการพิสูจน์มาเป็นพันปีแล้ว นอกจากนี้เรายังเห็นความแตก
ต่างที่มนุษย์ในโลกนี้ แต่ละคนมีติดตัวกันมาตั้งแต่เกิดได้ชัดเจนอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นหลักฐานยืนยันที่สอดคล้องกันว่าผลกรรมมีจริงอย่าได้สงสัย
หรือไขว้เขวเป็นอื่นไปเลย ตั้งใจทำความดีเข้าไว้เถิด”
เมื่อนึกถึงค่าสอนของหลวงพ่อท่านแล้ว ก็ใคร่ครวญในใจว่า
เรื่องของกฎแห่งการกระทำนี้ นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเริ่มต้นศึกษามาได้นิด
เดียวเอง แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทรงค้นพบบทสรุปสุดท้ายของ
กฎแห่งการกระทำนี้แล้วว่า ตายแล้วไม่สูญ ถ้าทำดี ก็ไปสวรรค์ ทำชั่ว ต้อง
ตกนรก หมดกิเลส ก็ไปนิพพาน
เพราะฉะนั้น ในเมื่อชีวิตของเรา ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดต่อไป
ก็ต้องตั้งใจทำละเว้นความชั่วทำความดีกลั่นใจให้ผ่องใสในชาตินี้ให้มากๆ
บุญที่เกิดจากการทําความดีจะได้ชักนำเราไปเกิดในภพชาติเบื้องหน้า เรา
จะได้มีความถึงพร้อมด้วยรูปสมบัติ ทรัพย์สมบัติ และสติปัญญาที่
เฉียบแหลมติดตัวไป รวมทั้งได้ไปเกิดในครอบครัวที่อบรมปลูกฝังศีล
ธรรมให้เราได้ด้วย ซึ่งก็จะเป็นโอกาสให้เราประสบความสำเร็จในชีวิตที่
ดียิ่งๆ ขึ้นไปในทุกภพทุกชาติที่จะต้องไปเกิดอีกต่อไปข้างหน้า จนกว่า
จะหมดกิเลสในชาติใดชาติหนึ่งนั่นเอง
ในทำนองเดียวกัน ถ้าพ่อแม่ต้องการได้คนมีบุญมาเกิดเป็นลูก ก็
ต้องตั้งใจท่าแต่ความดี ละเว้นอบายมุข และหมั่นสวดมนต์ ท่าภาวนาให้
ใจผ่องใสเสมอ เพื่อเป็นหลักประกันว่า บุญในตัวพ่อแม่กับบุญในตัวลูก
ที่มาเกิดมีมากพอใกล้เคียงกัน และนั่นก็จะทำให้พ่อแม่ได้คนมีบุญมา
เกิดเป็นสมาชิกของครอบครัว เป็นมิ่งขวัญกำลังใจของครอบครัวสืบไป
นั่นเอง
ค
bd
น