ข้อความต้นฉบับในหน้า
สาเหตุสำคัญ ที่ทำให้เสื่อมก็คือ “คนพาล” ทั้งพาลภายนอกและ
พาลภายใน
a)
พาลภายนอก ได้แก่ คนที่ไม่ได้นับถือพระพุทธศาสนา เขา
จะนับถือศาสนาอื่นหรือไม่ก็ตาม แต่เขามีจิตมุ่งร้ายคอยจ้องทำลาย
พระพุทธศาสนา ในยามปกติก็พยายามกล่าวร้ายป้ายสีพระภิกษุในพระ
พุทธศาสนา ว่าเลวอย่างนั้นอย่างนี้ หากเขามีโอกาส ก็จะบิดเบือนคำ
สอนในพระพุทธศาสนาให้คนอื่นเข้าใจไขว้เขว คนพาลประเภทนี้คอย
จ้องหาโอกาสทำลายพระพุทธศาสนาอยู่แทบจะทุกวันไป และก็มีจำนวน
มากด้วย
๒) พาลภายในได้แก่ ชาวพุทธที่ไม่เคารพพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
มีความคลางแคลงสงสัยในการตรัสรู้ของพระองค์ ไม่เคารพในพระธรรม
คือไม่ตั้งใจปฏิบัติธรรมตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์อย่างจริงจัง ไม่
เคารพในพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ไม่เคารพในการฝึกสมาธิเพื่อ
ทําให้จิตใจสงบ เมื่อขาดความเคารพอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทุกประการ
ดังกล่าวนี้ เขาก็จะเป็นพาลภายในของพระพุทธศาสนา ตัวของเขาเองก็
จะไม่ได้รับประโยชน์ใดๆ จากการเป็นชาวพุทธเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้นานไป เขาก็จะไม่เห็นคุณค่าในพระพุทธศาสนา
ยิ่งขึ้น เมื่อคนพาลภายนอกเข้ามาทำลายพระพุทธศาสนาด้วยวิธีการต่างๆ
ก็จะไม่สามารถปกป้องพระพุทธศาสนาได้ เพราะตัวเองก็ขาดความ
เคารพในพระศาสนาอยู่แล้ว เมื่อขาดความเคารพก็จะไม่มีใจในการ
ศึกษาหาความรู้ให้ถ่องแท้ ดีไม่ดีตกเป็นเครื่องมือของคนพาลภายนอก
มาบ่อนทำลายพระพุทธศาสนาเสียเอง
พวกเราลองมาพิจารณาตนเองดูเถอะว่า ตัวเรานั้นบัดนี้ยังเป็นคน
พาลอยู่หรือเปล่า และเราได้ทำหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนที่ดีแล้วหรือยัง
ชาวพุทธที่แท้จริงจะต้องประกอบด้วยคุณสมบัติต่อไปนี้
loop!
๑) มีศรัทธา เชื่อในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือ
เชื่อว่าพระพุทธเจ้ามีจริง และเป็นผู้มีคุณธรรมวิเศษสูงสุด ไม่ระแวง
สงสัยในพระปัญญาธิคุณอันเลิศของพระองค์
๒) มีศีลบริสุทธิ์ คือพยายามรักษาศีล ๕ ให้ได้เป็นอย่างน้อย เพื่อ
ปกป้องตนเองให้พ้นจากบาปกรรมทั้งหลาย
๓) เชื่อกรรม ไม่ถือมงคลตื่นข่าว แต่เชื่อถือมงคลตื่นตัว คือมี
ความเข้าใจถูกในเรื่องโลกและชีวิต ตื่นตัวอยู่เสมอว่าบุคคลเมื่อทำดี
ย่อมได้ดีจริง ทำชั่วย่อมได้ชั่วจริง ไม่มีความสงสัยเคลือบแคลงใดๆ ทั้ง
สิ้น เลือกทำแต่ความดีให้เต็มตามความสามารถของตน
๔) ไม่แสวงบุญนอกพระพุทธศาสนา คือไม่เหี่ยวแสวงบุญโดย
เข้าร่วมพิธีกรรมในศาสนาอื่นด้วยความเต็มใจ เพราะคิดว่าจะได้บุญ ทั้ง
ไม่กราบไหว้รูปเคารพของศาสนาอื่น แต่ก็ต้องไม่ล่วงเกิน ไม่วิจารณ์
วัตถุอันเป็นที่เคารพของลัทธิศาสนาอื่นด้วย ตลอดชีวิตต้องขวนขวาย
ในการอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา
๔) ตั้งใจทำจิตให้บริสุทธิ์ ด้วยการให้ทาน รักษาศีล และเจริญ
ภาวนาให้ถูกวิธีของพระพุทธศาสนาโดยแท้
ขอให้เราลองถามตัวเองกันดีกว่าว่า เราเองนั้นได้ทำตัวให้สมกับ
เป็นชาวพุทธที่แท้จริงแล้วหรือยัง ถ้ายังก็รีบปรับปรุงแก้ไข อย่าให้เสียที
ที่เกิดมาพบพระพุทธศาสนา ถ้าเราทำได้อย่างนี้ เรานั่นแหละ คืออายุ
พระพุทธศาสนาที่แท้จริง
พออ่านบันทึกจบแล้ว จึงตัดสินใจนำข้อความเหล่านี้มาลงให้อ่าน
กัน อย่างน้อยก็เพื่อให้บอกตัวเองได้ว่า ในฐานะที่เป็นพุทธศาสนิกชน
คนหนึ่ง วันนี้เราได้ทำอะไรตอบแทนพระคุณของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
บ้างแล้ว
ค
m