ความศักดิ์สิทธิ์ของพรและบทบาทของปู่ย่าตายายในชีวิต ครอบครัวอบอุ่น หน้า 168
หน้าที่ 168 / 198

สรุปเนื้อหา

บทความนี้กล่าวถึงความสำคัญของปู่ย่าตายายในการฝึกฝนคุณธรรมและความศักดิ์สิทธิ์ของคำพรที่พวกท่านให้แก่ลูกหลาน โดยยกตัวอย่างตั้งแต่การปฏิบัติตนตามหลักศีลธรรมจนถึงความเชื่อในการให้พร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรณีของพระองคุลีมาลที่เคยเป็นโจรแต่ได้พบแสงสว่างและเปลี่ยนแปลงชีวิตจนกลายเป็นภิกษุผู้มีจิตบริสุทธิ์และสามารถให้พรด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของสัจจะ.

หัวข้อประเด็น

-คุณค่าของปู่ย่าตายาย
-คุณธรรมในครอบครัว
-ความศักดิ์สิทธิ์ของคำพร
-กรณีศึกษาพระองคุลีมาล
-การถ่ายทอดปัญญาในครอบครัว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

จะปฏิเสธสิ่งเหล่านี้ทันที ด้วยเหตุนี้ ท่านจึงเป็นคนที่ลุ่มหลงในสิ่งที่ไม่ถูกต้องได้ยาก และ ยังมีความทันคน ทันกิเลสอยู่เพียบพร้อม ทำให้ท่านเป็นคลังปัญญาให้ แก่ลูกหลานได้อีกด้วย ลูกหลานคนใดอยากได้ปัญญา อยากได้ความ ทันคนทันกิเลส เมื่อเข้าไปหาท่านแล้วย่อมไม่ผิดหวัง มีแต่ได้รับค่า แนะน่าที่ดีอย่างเต็มที่อย่างแน่นอน โดยสรุป เพราะว่าปู่ย่าตายายของเรา ท่านสร้างความประเสริฐให้ เกิดขึ้นในตัว ด้วยการขจัดความโลภ ความโกรธ ความหลง ผ่านวิธีการ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเช่นนี้ ลูกหลาน จึงมีความรู้สึกว่า ท่านเป็น “ปูชนียบุคคล” ที่น่าเคารพยกย่อง น่ากราบ ไหว้ น่าเข้าใกล้ ท่านเป็นบุคคลที่ลูกหลานสามารถยึดถือเป็นต้นแบบใน การดาเนินชีวิตได้อย่างแน่นอน เมื่อศึกษามาถึงตรงนี้ก็ได้ข้อคิดว่าปู่ย่าตายายที่ท่านฝึกฝนตัวของ ท่านได้ดีเยี่ยมอย่างนี้ ลูกหลานจะไม่มีทางทอดทิ้งท่านอย่างแน่นอน มี แต่กราบเช้ากราบเย็น เสมือนท่านเป็นพระในบ้าน ความประเสริฐก่าให้ค่าอวยพรเกิดความศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่างไร เวลาที่เราเข้าไปกราบผู้ใหญ่ที่ท่านมีคุณธรรมมาก มีข้อสังเกต อย่างหนึ่ง ก็คือ เวลาปู่ย่าตาทวดของเราท่านให้พร ทำไมเราจึงรู้สึกว่า พรของท่านมีความศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่นั้นด้วย “ความศักดิ์สิทธิ์ของ พรเกี่ยวข้องกับความประเสริฐของผู้ให้พรอย่างไรกันแน่” หลวงพ่อรูปหนึ่งที่เคารพรักท่านให้ความรู้ในเรื่องนี้ไว้ว่า “ความศักดิ์ สิทธิ์ของพร” ขึ้นอยู่กับ “ความมีสัจจะต่อคุณธรรมความดีของผู้ให้พร SLOW nicol ถ้าผู้ให้พรเป็นคนมีสัจจะต่อคุณธรรมความดีมาก คำพรก็มีความ ศักดิ์สิทธิ์มาก แต่ถ้าผู้ให้พรมีสัจจะต่อคุณธรรมความดีน้อย คำพรก็มี ความศักดิ์สิทธิ์น้อย แล้วท่านก็ชี้แนะให้ย้อนไปดูเรื่องเก่าๆ ในตำรับตำราโบราณ โดย ท่านให้เปิดดูหลักฐานจากพระไตรปิฎก เรื่อง “พระองคุลีมาล” ซึ่งเป็นหลัก ฐานที่อธิบายเรื่องนี้ได้ชัดเจน หลวงพ่อท่านชี้ให้เห็นภาพชัดเจนว่า “พระองคุลีมาล ก่อนบวชท่านเคยเป็นโจรฆ่าคนมาเกือบพันชีวิต คนที่จะฆ่าแล้วได้ครบหนึ่งพัน ก็คือ มารดาของท่านเอง แต่ว่าพระสัมมา สัมพุทธเจ้าทรงรู้ล่วงหน้า จึงได้เสด็จมาดักพบกับท่าน ท่านเห็น พระพุทธองค์แล้วก็คิดจะฆ่า แต่ว่าพระพุทธองค์ก็ทรงเตือนสติให้ได้คิด แล้วก็เทศน์โปรดให้ท่านฟังที่ข้างทางนั้นเอง ท่านจึงสำนึกบาปได้ ขอบวช เป็นพระภิกษุ แล้วตั้งใจบำเพ็ญเพียรอยู่ในสำนักของพระพุทธองค์ แต่เนื่องจากท่านเคยเป็นโจรที่มีชื่อเสียงลือกระฉ่อนเรื่องฆ่าคน ไม่เลือกหน้า ระยะแรกๆ เวลาออกบิณฑบาต ท่านไม่ค่อยได้อาหาร เพราะพอชาวบ้านจำหน้าได้ว่า ท่านคือโจรองคุลิมาล ก็ตกใจ เผ่นหนีกัน ไปหมด บางวันก็ถูกรุมขว้างปาจนเลือดอาบ วันหนึ่ง ท่านออกบิณฑบาตไปพบผู้หญิงท้องแก่กลางทาง ผู้ หญิงคนนั้นพอจำได้ว่าเป็นโจรองคุลีมาล ก็ตกใจ วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน ในที่สุดก็หมดเรี่ยวแรงจะหนี ได้แต่อ้าปากผะงาบๆ ร้องไม่ออก ทำท่าจะ ตายเอาต่อหน้าต่อตา พระองคุลีมาลก็คิดช่วย แต่ทำอย่างอื่นไม่ได้ จึงกล่าวคำให้พรขึ้น โดยในคำให้พรนั้น “ท่านอ้างสัจจะต่อคุณธรรมความดี” ที่ท่านมีก่อนว่า นับแต่เมื่อข้าพเจ้าเกิดแล้วในอริยวงศ์ ได้บวชในสํานักของ mipe
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More