ข้อความต้นฉบับในหน้า
หลายคนที่เคยเห็นเพื่อนตนเองต้องประสบปัญหาหนี้สินใน
ลักษณะเช่นนี้ก็มีความคิดหาทางช่วยเพื่อนให้พ้นหนี้สิน แต่ก็ไม่รู้จะพูด
อย่างไร เพราะเงินก็ของเขา จะใช้จ่ายอะไรเราก็ไม่มีสิทธิก้าวก่าย แต่ถ้า
ปล่อยระยะยาว เขาต้องตายเพราะหนี้สินแน่ๆ และไม่อาจทนดูเพื่อน
กลายเป็นคนล้มละลายในอนาคต
ผู้เขียนเองก็เคยประสบกับปัญหาอับจนถ้อยคำตักเตือนเพื่อนฝูง
เช่นกัน จึงกลับไปเปิดบันทึกคำสอนของหลวงพ่อรูปหนึ่งที่เคยสอนเรื่อง
สาเหตุที่ทําให้คนเราเสื่อมจากโภคทรัพย์สมบัติ และหลังจากที่ได้อ่าน
บันทึกคำสอนของท่าน ก็ทำให้รู้ว่าจะหาเหตุผลไปเตือนเขาได้อย่างไร จึง
ขอคัดลอกเนื้อหาในบันทึกธรรมมาลงไว้ ณ ที่นี้
หลวงพ่อเล่าว่า เมื่อสมัยเป็นหนุ่มๆ ยังไม่ได้บวช อายุเกือบจะ
สามสิบท่านก็เคยเจอปัญหาหนี้สินกับตัวเองเหมือนกันตัวท่านเองแก้ไม่ได้
ต้องให้คุณแม่มาช่วยแก้ให้ แล้วก็แก้ไขได้สําเร็จด้วย
เมื่อสามสิบกว่าปีที่แล้ว หลวงพ่อมีรายได้เดือนละหมื่นกว่าบาท
ซึ่งสมัยนั้นค่าเงินแพง เงินหมื่นสมัยก่อน ก็เหมือนกับเงินครึ่งแสนสมัยนี้
หลวงพ่อใช้เงินคนเดียวด้วย แต่ว่ากลับไม่พอใช้
วันหนึ่งคุณแม่ก็เรียกไปคุยเรื่องการใช้เงิน ท่านบอกว่า “ลูกเอ๊ย
รายได้เท่าไหร่ไม่สำคัญ สำคัญว่าเหลือเท่าไหร่”
หลวงพ่อก็เลยเผลอเถียงไปว่า “โธ่แม่ ได้มากเหลือมาก ได้น้อย
มันก็เหลือน้อย
คุณแม่ก็ตอบกลับมาว่า “ลูกเอ๊ย ในโลกนี้ หลายๆ คน ได้มาก แต่
เหลือน้อย หรือไม่เหลือเลย แต่ในขณะที่อีกหลายๆ คนเขาได้น้อย แต่
เหลือมาก
ลูกเอ๊ย...ได้มากแล้วเหลือน้อย ก็เหมือนเอาเข่งไป
ตักนํ้า เมื่อตอนเบ่งอยู่ในนํ้า นํ้าเต็มเข่งนะลูก แต่
พอยกขึ้นมากลับเหลือแต่เข่งเปล่า นํ้าไม่มีเหลือ
เสร็จแล้วคุณแม่ก็ขยายความว่า “ลูกเอ๊ย...ได้มากแล้วเหลือน้อย
ก็เหมือนเอาเข่งไปตักน้ำ เมื่อตอนเข่งอยู่ในน้ำ น้ำเต็มเข่งนะลูก แต่
พอยกขึ้นมากลับเหลือแต่เข่งเปล่า น้ำไม่มีเหลือ
ส่วนที่ได้น้อยเหลือมากนั้น ก็เหมือนเอากะลาหรือขึ้น หรือซ้อน
คันเล็กๆ แต่ว่าไม่รั่ว ไปตักน้ำ เมื่ออยู่ในน้ำน่ะ น้ำก็เต็มกะลาหนึ่ง วันหนึ่ง
ช้อนหนึ่ง แต่ยกขึ้นมาแล้ว ก็ยังมีน้ำเต็มอยู่นั่นเอง
ผู้ที่รายได้มากแต่ว่ายังกินเหล้าอยู่ นี่ก็เป็นรูรั่วอย่างหนึ่ง
เล่นไพ่ ซึ่งเป็นของไม่น่าเล่นก็เล่น นี่ก็เป็นรูรั่วอีกอย่างหนึ่ง
ไปเที่ยวเตร่เฮฮา ไปเข้าบาร์ เข้าคลับ ไปเที่ยวในสถานที่ที่ไม่ควร
ไป ก็เป็นรูรั่วอย่างหนึ่ง
lecto
lean!