ข้อความต้นฉบับในหน้า
จากการแก้ปัญหาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ดังกล่าว ก็เป็นผล
ให้พ่อแม่ต้องมานั่งกลุ้มอกกลุ้มใจกับพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปในทาง
ก้าวร้าวของลูก มีการใช้คำพูดหยาบคาย ทะลึ่งลามกเกินเด็ก เป็นต้น
โดยพ่อแม่เองก็ไม่ทราบว่าเป็นเพราะสาเหตุอะไร
กว่าจะรู้ว่า มีสาเหตุมาจากการปล่อยให้เด็ก ซึ่งยังไม่รู้ว่า อะไรถูก
ผิด ดี-ชั่ว บุญ-บาป ควร-ไม่ควรทำ ดูรายการโทรทัศน์ที่ไม่เหมาะสม
เด็กก็รับเอาพฤติกรรมไม่ดีเข้ามาเป็นนิสัยเสียแล้ว พ่อกับแม่ก็เลยต้อง
มาแอบนั่งน้ำตาตก กลุ้มอกกลุ้มใจ และเริ่มรู้สึกว่า การที่เราเหนื่อยยาก
ลำบากลำบนหาเงินทองมาให้ลูกได้สุขสบายทางวัตถุ ช่างไม่คุ้มค่ากับ
การเสียลูกดีๆ ไปคนหนึ่งเสียเลย
ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางการแก้ไข หรือป้องกันไม่ให้เหตุการณ์
เหล่านี้เกิดขึ้นในครอบครัวของเรา พ่อแม่จึงควรมีหลักพิจารณาดังนี้
ประการที่ ๑ พ่อแม่ควรตระหนักในใจไว้เสมอว่า ถ้าไม่แบ่งเวลา
ให้ลูกบ้าง ลูกจะต้องมีวินิจฉัยเสียแน่ๆ เพราะรายการโทรทัศน์ส่วนใหญ่
จะเน้นไปในเรื่องเพศเสียมาก เด็กดูแล้วย่อมหมกมุ่นในกาม เพราะคิด
ว่าสิ่งที่เห็นนั้นคือความถูกต้องเหมาะสม
ประการที่ ๒ พ่อแม่ควรคัดรายการโทรทัศน์ที่ประเทืองปัญญาให้
ลูกดู โดยแบ่งเวลาดูให้ชัดเจน ยิ่งตั้งเป็นระเบียบวินัยประจำบ้านได้ยิ่งดี
แต่อย่างไรก็ตาม การจะให้ลูกดูโทรทัศน์แล้วไม่ติดนิสัยเสียๆ จาก
รายการต่างๆ นั้น มีหลักการ ๓ ประการคือ
จ.
ต้องไม่ทำให้เสียงาน พ่อแม่ต้องไม่ปล่อยให้ลูกดูทีวีตาม
อ้าเภอใจ โดยแบ่งเวลาไว้สําหรับการท่าการบ้าน ทบทวนบทเรียน อ่าน
ตำราหรือช่วยงานบ้าน พ่อแม่ควรจัดเวลาให้เหมาะสม อย่าปล่อยให้ดู
ทีวีจนดึก เพราะจะทำให้ลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ และยังก่อให้เกิดนิสัย
ไม่ดีต่างๆ ตามมาอีกมากมาย เช่น ชอบตื่นสาย เจ้ามารยา โกหกเก่ง เป็นต้น
เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะเมื่อลูกพักผ่อนไม่เพียงพอ หรือทำการบ้านไม่สำเร็จ
ลูกจะไม่อยากไปโรงเรียน เลยหาทางโกหกพ่อแม่ว่า ไม่สบายบ้าง ปวด
ท้องบ้าง ปวดหัวบ้าง พ่อแม่รู้ไม่ทัน ลูกก็ยิ่งจะได้ใจหาอุบายต่างๆ นานา
มาโกหกพ่อแม่เพื่อจะได้ไม่ต้องไปโรงเรียน
๒. ต้องไม่ทำให้เสียศีลธรรม เรื่องที่ให้ลูกดู ต้องไม่เป็นเรื่องที่
ไร้ศีลธรรม ไร้สาระ เช่น เรื่องเกี่ยวกับการจองเวรล้างแค้น ตื่นเต้นน่ากลัว
ยั่วยุอารมณ์ทางเพศ เป็นต้น
A.
ต้องส่งเสริมศีลธรรม พ่อแม่ควรเป็นผู้เลือกกำหนดให้ลูกดู
ในเรื่องที่ส่งเสริมคุณธรรมและประเทืองปัญญา เช่น เรื่องเกี่ยวกับการ
เสียสละ ความเมตตากรุณา ความกตัญญู เช่น เรื่องที่เกี่ยวกับวิทยาการ
ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม เป็นต้น เพราะจะทำให้เด็กรู้จักประเทศชาติ
ของตัวเอง เผ่าพันธุ์ของตัวเองชัดเจนขึ้น และจะเป็นพื้นฐานให้เด็กมี
วิสัยทัศน์กว้างไกลในอนาคต
แต่การที่ลูกจะเชื่อฟังคำสอนนั้น พ่อแม่ต้องทำตัวให้เป็นแบบ
อย่างที่ดีของลูกก่อน ลูกจึงจะเชื่อฟังคำสอน ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ยังติด
โทรทัศน์งอมแงม ก็คงจะห้ามลูกไม่ให้ติดโทรทัศน์ได้ยาก ดังนั้น
ระหว่างนิสัยของลูกรักกับรายการโทรทัศน์สุดโปรด พ่อแม่ก็ควรจะ
เลือกการปลูกฝังนิสัยที่ดีให้แก่ลูกเป็นอันดับแรก
loogl
คริส