การป้องกันลูกจากอบายมุข ครอบครัวอบอุ่น หน้า 92
หน้าที่ 92 / 198

สรุปเนื้อหา

การป้องกันลูกไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเป็นเรื่องสำคัญที่พ่อแม่ควรให้ความสนใจ การพูดคุยอย่างมีเหตุผลและเปิดใจเป็นสิ่งที่จำเป็นในการสื่อสารกับลูกเพื่อทำให้เขาเข้าใจถึงความห่วงใยของผู้ปกครอง และได้คิดถึงคุณค่าของเงินที่หามาได้อย่างยากลำบาก โดยพ่อแม่จะแนะนำความแตกต่างระหว่างความสนุกที่ได้จากการเที่ยวกลางคืนและการทำประโยชน์อื่นๆ ในชีวิต เช่น การเป็นอาสาสมัคร นอกจากนี้ยังมีการพูดถึงอันตรายและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการเที่ยวกลางคืน เช่น การทำเรื่องไม่ดีไม่งามที่จะเกิดขึ้นได้ง่ายๆ จากการอยู่ในสังคมเดียวกันกับเพื่อนวัยรุ่น ควรให้ลูกมีการยับยั้งชั่งใจและมองหาทางเลือกที่น่าสนใจมากกว่าการเที่ยวกลางคืนเพื่อลดความเสี่ยงและความกังวลของพ่อแม่.

หัวข้อประเด็น

-การป้องกันอบายมุข
-การสื่อสารระหว่างพ่อแม่และลูก
-การฝึกสอนเรื่องคุณค่าของเงิน
-การทำประโยชน์อื่นๆ แทนการเที่ยวกลางคืน
-ปัญหาที่อาจเกิดจากการเที่ยวกลางคืน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หรืออบายมุขอะไรที่แปลกใหม่ที่พ่อแม่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นอย่างไร เพราะ ตามโลกไม่ทัน ลูกก็สามารถวินิจฉัยตัดสินใจได้เองว่าควรทำ หรือไม่ ควรท้า” นี่คือทัศนะของปู่ย่าตายาย ในการป้องกันลูกไม่ให้ทำความชั่ว สอนให้ลูกทำแต่ความดีอย่างถูกวิธี กรณีที่ ๒ การแก้ไขลูกให้พ้นจากการติดอบายมุข กรณีที่ครอบครัวลูกไปติดอบายมุขเข้าแล้วสิ่งเดียวที่จะเอาลูกกลับ มาได้คือพ่อแม่ต้องพูดด้วยเหตุด้วยผลกับลูกห้ามใช้อารมณ์โกรธเด็ดขาด ทำให้ลูกได้คิดด้วยความรักความห่วงใยความบริสุทธิ์ใจที่เหนือกว่าใครๆ ของพ่อแม่ เพราะสาเหตุที่ลูกไปแหล่งอบายมุขอย่างนั้นเข้า เพราะเขาไม่ คิดว่านั่นเป็นความผิด ไม่รู้ว่าเขากำลังทำให้พ่อแม่เป็นห่วง กำลังทำร้าย จิตใจของพ่อแม่ ที่ตั้งความหวังไว้กับตัวเขาอย่างมาก ขอยกตัวอย่างครอบครัวหนึ่ง ซึ่งก็เกิดเหตุการณ์ทำนองนี้เช่นกัน แต่เพราะว่าพ่อแม่ลูกเปิดใจพูดกัน ลูกจึงเข้าใจถึงความห่วงใยของพ่อแม่ และเอาชนะความเอาแต่ใจของตนเองได้ วันนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สองท่านนี้ อธิบายให้ลูกฟัง มี ๓ เรื่อง ใหญ่ๆ คือ ๑) ความไม่คุ้มค่าของการใช้เงินเที่ยวกลางคืน คุณแม่เป็นฝ่ายเริ่มอธิบายว่า “ถ้าลูกคิดจะไปเที่ยวกลางคืน เพราะเห็นว่าใครๆ เขาก็ไปเที่ยวกัน คนที่ไม่ไปนั่นแหละ เป็นพวกคร่ำเครีโบราณเต่าล้านปี พ่อกับแม่ก็มีเรื่อง อยากให้ลูกรับรู้ไว้ว่า การไปเที่ยวแต่ละครั้งของลูก ต้องมีค่าใช้จ่ายสูง ถ้าพ่อกับแม่อนุญาต ก็จะต้องควักกระเป๋าหนักๆ อย่างแน่นอน ลูกลอง คิดดูว่า มันคุ้มกันไหม เมื่อพ่อกับแม่เหนื่อยแทบตายกว่าจะหาเงินมาได้ แต่ละบาท เสร็จแล้วเงินนั้นกลับกลายเป็นค่าความสนุกในการเที่ยว กลางคืนของลูกไปทุกวันนี้กว่าพ่อกับแม่จะหาเงินทองมาได้ไม่ใช่หาง่ายๆ นะลูก กว่าจะได้มาแต่ละบาท มันแสนยากลำบาก พ่อกับแม่อยากให้หนูมองเรื่องนี้ให้กว้างๆ จะได้เข้าใจหัวอกของ พ่อกับแม่ว่า รักหนูขนาดไหน วันหนึ่งพ่อกับแม่ต้องแก่ ต้องตายจากหนู ไปแน่ๆ จะช้าจะเร็วก็ไม่รู้ อะไรที่จะเป็นสมบัติทิ้งไว้ให้หนูได้ พ่อกับแม่ก็ ยอมยินดีทีมชีวิตจิตใจหามาให้ เก็บไว้ให้ เพราะยังไง ก็ดีกว่าจะปล่อย ให้มันละลายไป เพราะตามใจหนูเที่ยวกลางคืน หนูเอง อาจจะแย้งว่า ใครๆ เขาก็ไปเที่ยวกันนี่ แต่พ่อกับแม่ก็คิด ว่า ยังมีอีกหลายอย่างที่หนูทำแล้ว ไม่น้อยหน้ากว่าใคร ไม่เสียสุขภาพ และวิธีนั้นก็ไม่ต้องใช้เงินอะไรเลย เช่น ไปเป็นอาสาสมัครอ่านหนังสือให้ คนตาบอดฟังก็ได้ เอาเวลาที่ไปเที่ยวกลางคืนไปทำประโยชน์ให้ผู้อื่น ชีวิตของเราจะมีค่ามากกว่านะลูก พ่อกับแม่อยากให้หนูมองตรงนี้ด้วย ๒) ไปเที่ยวกลางคืนโอกาสห้ามใจไม่อยู่ แล้วทำเรื่องไม่ดีไม่ งามมีมาก คราวนี้ คุณพ่อเป็นฝ่ายอธิบายบ้างว่า "ลูกควรจะรู้จักธรรมชาติของวัยรุ่นด้วยว่า เพื่อนๆ ของลูกทุก คนล้วนเป็นวัยรุ่น การยับยั้งชั่งใจยังมีไม่มาก อาจห้ามใจตัวเองไม่ไหว ไป ทําสิ่งที่ไม่ดีเข้าไ วัยหนุ่มวัยสาวเป็นวัยที่กำลังจะต้องศึกษาว่า อะไรดี อะไรชั่ว อะไร บุญ อะไรบาป อะไรผิด อะไรถูก อะไรควร อะไรไม่ควร แม้จะสนใจ ศึกษาแต่ว่าจะไม่ค่อยถ่องแท้หรอก เพราะชีวิตวัยรุ่นผ่านโลกมาไม่นาน เมื่อรวมกันมากๆ โอกาสจะเกิดเรื่องไม่ดีไม่งาม ด้วยความคึกคะนอง อย Zabal
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More