การดำเนินการเมื่อพระภิกษุทำผิดวินัย ครอบครัวอบอุ่น หน้า 183
หน้าที่ 183 / 198

สรุปเนื้อหา

บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการพิจารณาข่าวเกี่ยวกับพระภิกษุในพระพุทธศาสนา โดยเน้นว่าชาวพุทธควรใช้ปัญญาและรอให้หมู่สงฆ์ดำเนินการตามพระธรรมวินัย แทนที่จะตัดสินใจด้วยอารมณ์ส่วนตัวหรือการฟังข่าวจากคนเดียว นอกจากนี้ยังมีข้อคิดการแยกแยะเรื่องส่วนบุคคลออกจากเรื่องรวม รวมทั้งการแก้ไขข้อผิดพลาดตามพระวินัยและกฎหมายบ้านเมือง

หัวข้อประเด็น

- การพิจารณาเหตุผลในข่าวพระภิกษุ
- การแก้ไขข้อผิดพลาดตามพระวินัย
- การดูแลพระพุทธศาสนา
- การแยกแยะเรื่องส่วนตัวและส่วนรวม
- การใช้ปัญญาในการเสพข่าว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ศึกษาธรรมะ และไม่ทำบุญงานต่างๆ ของวัดก็เลยอัมพาตกินกันไปหมด ชาวพุทธก็ลดจํานวนลงไปเรื่อยๆ ซึ่งเกิดจากปากกาของคนเขียนข่าวไม่กี่ คน ในกรณีที่หนังสือพิมพ์ลงข่าวพระทำผิดวินัยเช่นนี้ ชาวพุทธควรคิด อย่างไรจึงถูกต้องและเป็นการดูแลพระพุทธศาสนา หากเมื่อใดหนังสือพิมพ์ลงข่าวเกี่ยวข้องกับพระภิกษุทำตัวไม่น่า กราบไหว้ ผู้ใหญ่จะต้องสอนให้ลูกหลานจับประเด็นคิดให้ถูกต้อง ดังนี้ ประเด็นที่ ๑ หากหนังสือพิมพ์ลงข่าวพระภิกษุท่าความผิด ชาว พุทธอย่ารีบเชื่อตามข่าว แต่ควรใช้ปัญญาพิจารณาด้วยเหตุผล และ ควรปล่อยให้หมู่สงฆ์ดำเนินการพิจารณาตัดสินกันเองตามพระธรรมวินัย ตั้งแต่โบราณมาแล้ว พระเถราจารย์ท่านพูดไว้ชัดเจนว่า พระพุทธ ศาสนาเป็นเสมือนสระน้ำใหญ่ ใครมาถึงแล้วลงอาบ ก็ได้ความสะอาด กลับไป ใครมาถึงแล้ว ไม่ลงอาบ เนื้อตัวก็ไม่สะอาดต่อไป การมาบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน ใครตั้งใจ ปฏิบัติธรรม คนนั้นก็ได้รับความสะอาดกาย วาจา ใจไปมาก ส่วนใคร ไม่ปฏิบัติธรรม ก็ย่อมเปรอะเปื้อนต่อไป การที่พระภิกษุไปทำผิดพระวินัยขึ้นมา จะโดยเจตนาหรือเผลอ สติก็ตาม พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงได้กำหนดพระวินัยไว้เรียบร้อยแล้ว ญาติโยมก็ต้องไว้วางใจให้เป็นเรื่องภายในของหมู่สงฆ์ในวัดนั้นจัดการ ตามพระวินัยกันต่อไป โดยพระภิกษุผู้ปกครองในวัดนั้น ท่านจะต้อง เป็นผู้ไตร่สวน ตรวจสอบหลักฐานและพยานให้ชัดเจน ไม่ใช่ญาติโยม ตั้งศาลเตี้ยตัดสินกันเอง ซึ่งมักจะชอบว่าเองเออเองกันไปตามความสะใจ หากพระภิกษุรูปนั้นทำผิดจริง และความผิดก็ร้ายแรงถึงขั้นขาด จากความเป็นพระ ก็ต้องให้ลึกหาลาเพศไป แต่หากความผิดนั้นไม่ได้ผิดรุนแรงถึงขั้นขาดจากความเป็นพระ ชาวพุทธต้องแยกแยะเรื่องส่วนบุคคลกับส่วน รวมออกจากกัน ถ้าหากไม่แยกแยะออกจากกันแล้ว ก็จะกลายเป็นคนที่ตัดสินใจโดยขาดการพิจารณา เข้าท่านองในอุปมาทีว่า มองเห็นปลาเน่าตัวเดียว ลอยน่ามา เลยเหมาว่าปลาทั้งแม่นํ้าเน่าเหมือนกัน หมด ถ้าเป็นอย่างนี้ ก็จะได้บาปจากการทําลาย พระพุทธศาสนาโดยไม่รู้ตัว และเกิดผิดพลาดเพราะความประมาทพลั้งเผลอ พระวินัยที่พระพุทธ องค์ทรงบัญญัติไว้ ก็ยังมีข้อที่เปิดโอกาสให้พระภิกษุที่ทำผิดได้แก้ไข ฝึกฝนอบรมตนกันใหม่ แต่หากความผิดพลาดนั้น มีเรื่องการผิดกฎหมายบ้านเมืองเข้า มาเกี่ยวข้องด้วย ก็ต้องพิจารณากันไปตามหลักฐานและพยานทั้งในแง่ พระวินัยและในทางกฎหมายบ้านเมืองกันต่อไป พูดง่ายๆ ก็คือ หากพระท่านทำผิด ญาติโยมอย่าไปตั้งศาลเตี้ย พิพากษากันเอง หรือเขียนข่าวพิพากษาพระภิกษุกันอย่างสนุกมือ แต่ ต้องให้พระผู้ปกครอง ท่านเป็นผู้พิจารณาตัดสินกันเองตามพระวินัย แล้วก็ไม่ควรจะไปวิพากษ์วิจารณ์อะไรกันต่อไป เพราะหากพูดไปผิดๆ ก็ จะกลายเป็นบาปแก่ตนเองเปล่าๆ ando ค ada
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More