การเลิกอบายมุขและการทำบุญ ครอบครัวอบอุ่น หน้า 101
หน้าที่ 101 / 198

สรุปเนื้อหา

คุณยายสอนว่าลูกทำบุญเพียง 2,000-2,500 บาทต่อปี แต่สร้างบาปข้ามปีเป็นแสน หากไม่เลิกอบายมุขจะพบกับความหายนะในชีวิต หลวงพ่อจึงตัดสินใจเลิกเหล้าและแชร์ความรู้ให้คนอื่น เมื่อเลิกได้ก็เริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในอบายมุข ทุกคนควรคิดถึงสิ่งที่สำคัญมากกว่าการใช้เงินไปกับสิ่งไม่จำเป็นและให้เกียรติแม่กับคุณยาย

หัวข้อประเด็น

-การเลิกอบายมุข
-การทำบุญ
-คำสอนจากคุณยาย
-ประสบการณ์หลวงพ่อ
-การคิดถึงความสำคัญในชีวิต

ข้อความต้นฉบับในหน้า

คุณยายท่านเลยสรุปให้ว่า “ลูกทำบุญปีหนึ่ง ๒,๐๐๐-๒,๕๐๐ บาท แต่ลูกสร้างบาปปีหนึ่งเป็นแสนแล้ว ลูกยังมีหน้ามาบ่นว่าบุญไม่ช่วย ถ้า ตายตอนนี้ ลูกไม่ตกนรกก็นับว่าดีแล้ว จะมาบ่นเอาอะไร ลูกน่ะ ปริญญาได้ทั้งเมืองนอกเมืองไทย ของแค่นี้ลูกคิดไม่ออกจริงๆ หรือนี่” พอได้ยินคำสอนของคุณยายที่กระทบใจอย่างรุนแรงเข้าจังๆ ท่าน ก็เลยถึงกลับสร่างเมา นั่งซึมชื่อ นั่งเซ่ออยู่พักหนึ่ง หลวงพ่อท่านบอกว่า “จุดนี้เอง คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้หลวงพ่อเลิก เหล้าได้ คุณยายพูดไม่กี่คำ แต่คำพูดแค่นี้ของท่าน ทำให้เมื่อกลับมาถึง บ้าน ก็ทุบขวดเหล้าทิ้งเสียจนหมด ตั้งแต่นั้นไม่ได้หยิบเหล้ามาดื่มกัน อีกเลย พอเลิกเหล้าได้ก็เลยชวนคนอื่นเลิกเหล้าตาม แล้วพยายามให้ ข้อคิดกับทุกคนที่ได้เจอกันว่า พอครบวันเกิด แทนที่จะนึกถึงค่าน้ำนม ขอแม่ แต่เปล่า กลับไปนึกถึงเหล้าก่อนทุกที ควรรอบวันเกิดแต่ละปี เราน่าจะไปกราบขอบพระคุณแม่ที่ให้กำเนิดเรามา มากกว่าจะเอาเงินไป เลี้ยงเหล้าเพื่อน อบายมุข ถ้ายังไม่รีบเลิก ก็จะกลายเป็นค่านิยมทางสังคมเลวๆ ที่ทำให้เราเป็นหนี้ พอกพูนขึ้นตามลำดับ และมีเพื่อนชั่วๆ มากขึ้น แต่ถ้าเราเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ เลิกการพนัน เลิกหวยใต้ดิน บนดิน เลิกสิ่งเหล่านี้ได้ เพื่อนชั่วจะหมดไปภาษีสังคมก็ลด แล้วจะมีแต่เพื่อนดีๆ และเงินก็จะเหลือด้วย หลวงพ่อท่านยังบอกอีกว่า “ในอดีต เพราะหลวงพ่อพิจารณามา อย่างนี้ จึงไม่ต้องให้ใครมาตำหนิอะไรมาก ตัดสินใจเลิกเหล้า เลิกบุหรี่ แล้วเดินหน้าเข้าวัด ศึกษาธรรมะอย่างจริงจังกันเลย ไม่ต้องมาค่อยๆ ลด- ละ-เลิกอะไรต่ออะไรให้เสียเวลา หักดิบตัดใจกันวันนั้นเลย ถ้าไม่ได้คุณแม่ กับคุณยายให้แง่คิด ถ้าไม่เคารพคุณแม่ และ คุณยาย ก็ไม่มีทางตอบคำถามให้เราได้หรอกวันนี้ ลองกลับไปถาม เพื่อนเราดูนะว่า การที่เพื่อนของเราติดหนี้สินล้นพ้นตัวน่ะ เพราะเสียค่า อบายมุขมากกว่าค่าเงินเดือนหรือเปล่า หลวงพ่อฝากคำถามไปยังเขา ด้วยนะ" จากคำตอบที่ได้จากบันทึกคำสอนของหลวงพ่อนี้เองทำให้เราได้คิด ว่าใครๆ ก็ตามที่ทุ่มชีวิตทำงานหนักเพื่อเอาเงินทองไปจมกับอบายมุข ก็ เท่ากับซื้อหาความหายนะมาให้แก่ชีวิตและหน้าที่การงานของตัวเอง และแน่นอนว่าไม่ช้าก็เร็ว เขาต้องล้มละลายเพราะอบายมุขอย่างแน่นอน ใครๆ ก็ไม่สามาถช่วยเหลือคนที่จมอยู่ในอบายมุขได้ นอกจากเขาจะ หักดิบเลิกอบายมุขด้วยตัวเองเท่านั้น leat Jean!
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More