แนวทางให้ลูกเรียนรู้และเติบโตด้วยตัวเอง : หน้า 60/198

แนวทางให้เขาเดินไปด้วยตัวเอง ส่วนครูที่โรงเรียน เนื่องจากเราไม่ได้อยู่กับเขาทั้งวัน ก็ต้อง ตระเวนหา จริงๆ แล้วไม่ได้ต้องการโรงเรียนดังๆ แต่ต้องการสิ่ง แวดล้อมดีๆ ให้ลูก เพราะคนที่เรียนเก่งได้ที่หนึ่ง ก็ไม่ได้หมายความว่า จะได้เป็นมหาเศรษฐีของโลก ความรู้ในตำรามันยังต้องมีการพัฒนา เรา ก็ต้องสอนให้ลูกเราเข้าใจว่า เรื่องการเรียนนั้น เรียนกันตลอดชีวิต ๔) หาเพื่อนดีๆ ให้ลูกคน ข้อสุดท้าย คือหาเพื่อนดีๆ ให้ลูกคบ ในมงคลสูตร ก็บอกไว้ชัดเจน ไม่คบคนพาล คบบัณฑิต แน่นอนลูกของเราคบคนไม่ดี โอกาสที่ลูกจะ ไม่ดีก็เกิดตามไปด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้ มันจะสะท้อนออกมาตอนที่เขาไม่อยู่ กับเรา เราก็ต้องสังเกตให้ออก แล้วก็ให้คำแนะนำดีๆ ด้วยเหตุด้วยผล จะไม่เรียกมาห้ามทีเดียว ปกครองเด็กก็ต้องมีกลยุทธ ต้องมีลูกล่อลูก ชนเหมือนทำธุรกิจเพราะนี่เรากำลังสอนเรื่องพื้นฐานการเลือกคบคนให้ลูก ซึ่งก็จะเป็นมุมสะท้อนมาสู่ตัวเราว่า แล้วเราเลือกคบเพื่อนอย่างไร บางคนส่งลูกไปเรียนเมืองนอก ได้ปริญญาตรี ปริญญาโท ปริญญาเอก ตั้งแต่เด็กๆ แต่ว่าพอกลับมาแล้ว เขาไม่เชื่อคำสอน พระพุทธเจ้า ไม่เชื่อเรื่องชาตินี้ชาติหน้า เขาไม่สนใจ ไปได้มิจฉาทิฏฐิ กลับมาเขาได้ความคิดนี้มาจากไหน ก็ได้มาจากเพื่อนที่เขาไปเรียนต่าง ประเทศ พอเขากลับมาทํางานในสิ่งแวดล้อมแบบวัฒนธรรมไทย เขา พูดจาไม่มีสัมมาคารวะ ไม่รู้กาลเทศะ ใครในที่ทำงานย่อมไม่ให้การ ยอมรับ แม้จะมีการศึกษาสูงแค่ไหนก็ตาม เมื่อสังคมไม่ยอมรับ เขาทน อยู่ไม่ได้ก็เลยลาออก แล้วก็รู้สึกล้มเหลว เพราะเขาไม่รู้หรอกว่า ความรู้ ในตำราอย่างเดียวไม่พอ ต้องรู้กิริยามารยาท และกาลเทศะด้วย ดังนั้นการจะป้องกันไม่ให้ลูกเสียคน ก็ต้องสร้างสิ่งแวดล้อมทั้ง ๔ อย่างนี้ให้แก่ลูก แล้วลูกก็จะเติบโตมาอย่างผู้ที่มีความคิด คำพูด การ กระทำของมาตรฐานคนที่อยู่ในตัว และเราจะสามารถปล่อยให้เขาบิน จากอ้อมอกเราไปสู่โลกกว้าง โดยไม่ต้องเป็นห่วงว่า เขาจะไม่ประสบ ความสำเร็จในชีวิตด้วยตัวของเขาเอง หรืออาจพูดสรุปแบบสั้นๆ ง่ายๆ เป็นภาษาชาวบ้านว่า “พ่อแม่หมดห่วง” นั่นเอง look! ww lood thecla