ข้อความต้นฉบับในหน้า
๒. ปิยวาจา คือ ให้คำพูดที่ไพเราะ และพูดด้วยความจริงใจ
๓. อัตถจริยา คือ ประพฤติตนให้เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น เช่น ให้
ความช่วยเหลือในการงานที่เราพอจะแบ่งเบามาได้
๔. สมานัตตตา คือ ให้ความเป็นกันเอง เสมอต้นเสมอปลาย
ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทา ๔ อย่างนี้ได้ ก็จะมีแววเป็นบัณฑิต มีแววเป็น
บุคคลที่ควรแก่การนับถือ ถึงไม่ยกย่องบูชา ก็ทำให้เขาเกรงใจ พอมี
อะไรกระทบกระทั่งกัน เราค่อยไปเตือน ไปแก้ไข ส่วนจะแก้ไขอย่างไรนั้น
เราก็ย่อมดูตามสถานการณ์ เป็นเรื่องๆ ไป บางทีอาจจะปรึกษาหารือ
ร่วมกันแก้ไขได้
๒) คนที่จะสามารถตักเตือนความประพฤติคนอื่นได้ต้องรักษา
ศีลให้ดี อย่างน้อยศีลทั้ง ๕ ข้อของเขาต้องครบ เมื่อศีลดี กิริยามารยาท
และวินัยเราดีแล้ว จึงจะมีสิทธิ์เข้าไปแก้ไขสถานการณ์ได้ ถ้าคุณพ่อคุณ
แม่ยังไม่สามารถทําตนให้มีแววเป็นคนมีศีลธรรมได้ อย่าเพิ่งไปเตือนใคร
เดี๋ยวจะเจ็บตัวเจ็บใจกลับมา
น้ำใจต่อส่วนรวม
วิธีครองใจคน หรือวิธีทำให้คนเกรงใจมีหลายวิธีเหลือเกิน แต่วิธี
ที่ได้ผลมากที่สุด คือ การให้ เมื่อให้ด้วยความบริสุทธิ์ใจแล้ว เขาจะทั้งรัก
ทั้งเกรงใจทีเดียว
ขอยกตัวอย่างวิธีที่เคยใช้ได้ผลมาแล้ว เป็นวิธีให้อย่างง่ายๆ คือ
เช้าขึ้นมาก็คว้าไม้กวาดมาอันหนึ่ง เดินกวาดซอยเข้าบ้าน ตั้งแต่หัวซอย
จรดท้ายซอยเลย วันไหนอยู่บ้านต้องกวาดทุกวัน ถ้าไม่อยู่ก็แล้วไป แต่
อย่างน้อย ๗ วัน ต้องกวาดที ด้วยวิธีนี้เอง ทำให้กับคนแถวนั้นรู้จักกัน
ตลอดชอย ถึงจะยังไม่รัก แต่ก็ไม่เกลียดการให้แบบนี้เรียกว่า ให้กำลังกาย
โบราณมีวิธีให้มากมาย มีวิธีหนึ่งที่ทำกันเกือบทุกบ้าน แต่เดี๋ยวนี้
ไม่ค่อยได้เห็นแล้ว คือคนโบราณตามหน้าบ้านท่านจะมีโอ่งน้ำตั้งไว้ แล้ว
มีขันน้ำ หรือมีถ้วยวางไว้ข้างๆ ใครกระหายน้ำ ผ่านมาก็ได้ดื่มกิน โอ่ง
ธรรมดาๆ ใบนั้น ก็กลายเป็นโอ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้สิ่งที่มีค่ามากกว่าน้ำธรรมดา
คือน้ำใจไมตรี
ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่นำหน้าด้วยการให้ และประพฤติตนอยู่
ในศีลและมารยาทเช่นนี้แล้วในที่สุดลูกของเราก็จะได้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี
และเราก็ไม่ต้องย้ายบ้านหนีไปไหนอีกด้วย
logo! alpha
Jean
e