ข้อความต้นฉบับในหน้า
อีกด้วย เพราะเขาไม่ใช่คนช่างประจบ ก็ทำให้เขาเป็นโรคน้อยใจคนในบ้าน
มีช่องทางก็จะหนีออกจากบ้านทันที
จุดเริ่มต้นความแตกแยกที่อาจมองเป็นเรื่องเล็กในบ้าน ก็คือ
เรื่องกินข้าวไม่พร้อมกัน เพราะเป็นความไม่ยุติธรรมที่เกิดขึ้นบาดตา
บาดใจกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันสะสมเข้าไปในใจลูกโดยที่พ่อแม่ไม่ทันรู้ตัวและ
โดยมากเรื่องนี้จะเกิดกับครอบครัวที่กำลังสร้างเนื้อสร้างตัวต่างคนต่างยุ่ง
พ่อแม่ไม่ค่อยมีเวลามาใส่ใจกัน เลยไม่ทันรู้ว่าคนอื่นๆ ในบ้านผิดสังเกต
อะไรบ้าง
เพราะฉะนั้น ถ้าบ้านไหนกินข้าวไม่พร้อมกัน ก็เป็นการส่ง
สัญญาณให้รู้ว่า บ้านนั้นกำลังจะแตกแยกแล้ว
ประโยชน์ของการกินอาหารพร้อมหน้ากันทุกวันคือ ถ้าใครในบ้าน
มีปัญหาอะไรจะได้พูดกัน ไม่ต้องติดค้างอยู่ในใจ มีอะไรจะแนะนำสั่ง
สอนกัน ก็ใช้เวลาว่างช่วงนี้แหละเหมาะที่สุด เพราะท้องอิ่ม อารมณ์ดี
ยิ่งกว่านั้นยังเป็นโอกาสให้ลูกๆ ได้ถ่ายทอดนิสัยที่ดีไปจากพ่อแม่ โดย
การเลียนแบบกิริยามารยาทในการกินอยู่ไปโดยอัตโนมัติ
ในสมัยโบราณ ปู่ย่าตายายของเราถือกันมากว่า อย่างน้อยที่สุดใน
๑ วัน พ่อแม่ลูกควรจะต้องมากินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากัน ๑ มื้อ
สําหรับมื้อเช้านั้นอาจทําได้ยาก เพราะต่างคนต่างต้องรีบไปทำงาน
หรือรีบไปเรียน
ส่วนตอนกลางวันต่างคนก็กินกันที่โรงเรียน หรือในที่ทำงาน
แต่สําหรับมื้อเย็นนั้นขอให้เป็นเวลานัดพร้อมหน้าพร้อมตากันให้ได้
เพราะถ้าพลาดจากเวลาอาหารเย็นแล้วต่างคนต่างก็มีเรื่องส่วนตัวจะต้องท่า
บางคนจะทำการบ้าน บางคนจะดูทีวี ถ้าไม่มีเวลาอบรมพบปะ
ทําความเข้าใจกันในช่วงกินชาวมื้อเย็นดีไม่ดีจะทะเลาะกันหน้าทีวีนั่นแหละ
เพราะชอบรายการไม่เหมือนกัน
บางบ้านแก้ปัญหาโดยซื้อโทรทัศน์แจกกันดูให้ครบคนละเครื่องเลย
พอตกเย็น ต่างคนต่างกิน ต่างคนปิดประตูเข้าห้อง ดูทีวีในห้องตัวเอง
ตกลงวันหนึ่งๆ เลยไม่ต้องได้คุยกัน ต่างคนต่างไป ไม่มีความอบอุ่น
นอกจากเรื่องการกินข้าวไม่พร้อมหน้ากันแล้วยังมีอีกตัวอย่าง
หนึ่งที่เห็นบ่อยๆ และมักจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้ครอบครัวเกิดความ
ระหองระแหงโดยไม่รู้ตัว นั่นก็คือ คู่สามีภรรยาสมัยนี้ มักมีเรื่องทะเลาะ
เบาะแว้งอยู่เรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องการเตรียมข้าวปลาอาหาร ถ้าเอาแต่
ซื้อกับข้าวใส่ถุงพลาสติก ต่างคนต่างกินตาจ้องเป่งอยู่กับละครทีวี แล้วก็
เห็นพระเอก นางเอกดีกว่าสามีหรือภรรยาของเรา ก็เตรียมรับ
สถานการณ์บ้านแตกได้ในไม่ช้าก็เร็ว
อีกตัวอย่างก็คือสามีและภรรยาก็ต้องสังเกตตนเองว่า ถึงคราว
นัดพบประชุมญาติฝ่ายเขา เราไปร่วมด้วยหรือเปล่า ไม่ใช่ปล่อยเขาไป
เยี่ยมพ่อเยี่ยมแม่ตามลำพังก็เตรียมรับสถานการณ์บ้านแตกได้อีกเช่นกัน
เรื่องการทำอะไรพร้อมหน้าพร้อมตากันในครอบครัวเป็นเรื่องใหญ่
และเป็นสิ่งที่จะสร้างความอบอุ่นสามัคคีให้แก่ครอบครัว อย่าคิดว่าไม่มี
อะไร เพราะหลายครอบครัวก็พังกันด้วยเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้
สรุป การสร้างความสามัคคีในครอบครัว ทำได้ง่ายๆ คือในหนึ่งวันควร
จะต้องมีกิจกรรมหนึ่งอย่าง ที่คนทั้งบ้านจะต้องมาท่าพร้อมหน้าพร้อม
ตากัน และที่ดีที่สุด ก็คือ การกินข้าวพร้อมกัน หรืออย่างน้อยที่สุด เมื่อ
ใครในบ้านมีเรื่องอะไร ก็มาจับเข่าคุยกันปรึกษากัน โดยเอาหลักธรรมเป็น
ตัวตั้ง แล้วก็ใช้เหตุใช้ผลพูดคุยกันถึงแง่มุมต่างๆ ที่เป็นคุณและเป็นโทษ
การพร้อมเพรียงกันเช่นนี้ ก็จะนำความอบอุ่นและความสามัคคีมาสู่
ครอบครัวแบบง่ายๆ โดยไม่ยากเย็น
long!
ค
land
ความสนับ