การอยู่ธุดงค์และความเข้าใจในความจำเป็น ครอบครัวอบอุ่น หน้า 172
หน้าที่ 172 / 198

สรุปเนื้อหา

การอยู่ธุดงค์มีส่วนช่วยให้ผู้เข้าร่วมสามารถแยกออกว่าอะไรเป็นความจำเป็น (Need) และอะไรก็เป็นความต้องการ (Want) หลวงพ่อได้สอนว่าเวลาที่มีความสุขมักรู้สึกว่าสุขน้อยกว่าคนอื่น แต่เวลาที่ทุกข์กลับรู้สึกว่ามากกว่าทุกคน รวมถึงการตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจากการไม่สามารถแยกแยะระหว่าง Need และ Want การเข้าค่ายหรืออยู่ในกลดจะช่วยให้ผู้คนได้เรียนรู้ว่าความต้องการจริงๆ นั้นมีไม่มากนัก เมื่อเข้าใจความจริงเหล่านี้ จะสามารถลดความต้องการที่ไม่มีที่สิ้นสุดลงได้ การอยู่ธุดงค์จึงเป็นวิธีที่สำคัญในการสร้างสติและความไม่ประมาทในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-การอยู่ธุดงค์
-ความจำเป็นและความต้องการ
-การฝึกสติ
-คำสอนของหลวงพ่อ
-การลดความอยาก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เวลา ๓-๗ วัน ซึ่งจะมีการทำทาน รักษาศีล ๘ และนั่งสมาธิทาภาวนา เป็นกิจกรรมหลัก ส่วนสถานที่พักก็แล้วแต่ว่าทางวัดจะจัดให้ บางแห่งก็ เป็นการปักกลด บางแห่งก็เป็นเรือนพัก ขึ้นอยู่กับว่าสภาพภูมิประเทศ ของวัดที่ไปอยู่ธุดงค์นั้นเป็นอย่างไร บางท่านอาจสงสัยว่า การมาอยู่ธุดงค์ทำให้ใจอยู่ในบุญ หรือ ทำให้เกิดความไม่ประมาทได้อย่างไร เรื่องนี้ก็ได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติมและ ก็ได้พบกับคำตอบที่หลวงพ่อรูปหนึ่งเคยอธิบายไว้ จึงขอนำมาเล่าสู่กัน ฟังในเรื่องนี้ หลวงพ่อท่านอธิบายให้แก่ผู้มาอยู่ธุดงค์ที่วัดฟังว่า "การอยู่กลดเป็นวิธีการที่เลียนแบบมาจากข้อปฏิบัติของพระ ภิกษุเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่อาศัย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้แบบอย่างการอยู่ธุดงค์เอาไว้ เพราะ ทรงมองเห็นเหตุสำคัญ ๒ ประการ ดังนี้ ประการที่ ๑ คนในโลกนี้มีความรู้สึกเหมือนกันอยู่ประการหนึ่ง คือเมื่อเวลาตนมีความสุข แม้จะสุขมากก็รู้สึกว่าตนสุขน้อยกว่าคนอื่น แต่ เวลามีทุกข์นิดเดียว ก็รู้สึกว่าตนเองมีทุกข์มากกว่าคนอื่นทั้งโลก ประการที่ ๒ คนเราแยกไม่ออกว่า อะไรเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต อะไรเป็นส่วนเกิน หากสังเกตดูให้ดีจะพบว่า ปัญหาน้อยใหญ่ทั้งหลายที่เกิดขึ้น และ ทำให้โลกเดือดร้อนอยู่ทุกวันนี้ถ้าพูดโดยสรุปคือเราแยกไม่ออกว่าอะไรคือ Need และอะไรคือ Want เพราะว่า Need คือ ความจําเป็นต้องมี ซึ่งก็คือการคานวณปัจจัย ๔ ที่จำเป็นต่อการเลี้ยงชีวิตของเราในแต่ละวันให้ได้ ส่วน Want คือ ความต้องการ ความอยากได้ ซึ่งเป็นเรื่องของ ความสะดวกสบาย เพราะฉะนั้น พออยากได้อะไรขึ้นมา ก็คิดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งจำเป็น เป็น Need ทั้งหมด ยกตัวอย่างเช่น เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่ม แม้ว่าของเดิมจะมีแล้วเป็น สิบๆ ชุด อัดแน่นอยู่ในตู้ แต่เจ้าของก็ยังคิดว่าไม่พอ ยังอยากจะหาซื้อ แฟชั่นใหม่ๆ มาเพิ่มเข้าไปอีก อย่างนี้ไม่ใช่ความจำเป็น แต่เป็นความ ทะยานอยากกัน ข้อสังเกตอีกอย่าง เดี๋ยวนี้สินค้าต่างๆ มีรายการแถมโน่นแถมนี้ บางคนซื้อของใช้ต่างๆ ไม่ใช่เพราะอยากได้ของมาใช้ แต่ซื้อเพราะอยาก ได้ของแถม ผลสุดท้ายของที่ไม่จำเป็น ก็เลยมีอยู่เต็มบ้าน เงินทองก็เลย ไม่พอใช้ แล้วมาร้องทุกข์ว่ารายได้ไม่พอรายจ่าย การที่ใครจะแยกออกได้ระหว่าง ความจำเป็น (Need) กับความ ต้องการ (Want) ปู่ย่าตายายท่านจึงไปฝึกอยู่กลดทุกวันพระและวันหยุด พระอาจารย์เจ้าทั้งหลายท่านจึงบอกว่า ถ้าอยากรู้ก็ลองเข้าไปอยู่ ในกลดดู แบกกลดมานอนที่ลานวัดสัก ๒ คืนแล้วจะรู้เองว่าที่อยาก ได้ บ้านได้ตึกกี่หลังๆ พอเข้าไปอยู่ในกลดแล้วจะรู้สึกว่า แค่นี้ก็พออยู่ ขึ้น หอบสมบัติมามากจนล้นออกนอกกลด จะหย่อนตัวลงนอนได้อย่างไร การที่ให้ใส่แต่ชุดขาวอยู่ธุดงค์อย่างนี้ จะได้รู้ว่า จริงๆ แล้ว เสื้อผ้าเครื่องนุ่งห่มก็ไม่ต้องการมากเลย เป็นภาระในการระวังรักษาเปล่าๆ ยิ่งเป็นชุดขาวยิ่งต้องระวัง จะนั่งจะนอนต้องควบคุมสติ ระวังความเปรอะ เปื้อนเป็นพิเศษ ท่าให้สติดีขึ้นมาโดยอัตโนมัติ ความต้องการจำเป็น หรือ need มีอยู่แค่นี้เอง อะไรที่ตาโตอยาก ได้ไม่มีที่สิ้นสุด หรือ want ก็จะได้เพลาๆ ลงเสียบ้าง นี่คือเหตุที่ต้องแนะนำ Hlaings! Swalahan ครีมส www
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More