ข้อความต้นฉบับในหน้า
“พ่อแม่สมัยนี้ น่าเป็นห่วง อย่าว่าแต่จะไปสอนให้ลูกเว้นความชั่ว
ตั้งอยู่ในความดีเลย แม้ตัวคุณพ่อคุณแม่เอง บางท่านก็ยังแยกไม่ออก
ว่าอะไรถูก-ผิด อะไรดี-ชั่ว และไม่รู้แม้กระทั่งเรื่องบุญ-บาปว่าเป็นอย่างไร
บางคนทำตัวอย่างไม่ดีให้ลูกดูเสียด้วย อย่างนี้แหละที่น่ากลัวที่สุด”
ทำไมพ่อแม่ถึงสอนให้ลูกทำความดีไม่ได้ ?
ปู่ย่าตายายท่านบอกว่า
“สาเหตุเกิดจากคุณพ่อคุณแม่บางคนแยกออกได้ว่า อะไรดี อะไร
ชั่ว แต่ว่าไม่ค่อยได้สั่งสอนอบรมลูกเท่าที่ควรจะเป็น ความรักความ
ห่วงใยมีมาก ก็เลยทำให้ละล้าละลัง ห้ามลูกไม่ให้ไปโน่นไปนี่ เอาแต่ห้ามๆ
ไม่อธิบายเหตุผล
คุณพ่อคุณแม่ควรคิดพิจารณาว่า เราจะตามห้ามตามดูลูกได้สัก
กี่ครั้ง ในที่สุดเขาก็แอบไปอีกจนได้ เพราะฉะนั้น แทนที่จะเอาแต่ห้ามว่า
ลูกอย่าไปที่โน่นที่นี่ สู้เอาเวลาไปสอนให้ลูกรู้ว่าอะไรดี อะไรชั่ว อะไรถูก
อะไรผิด อะไรควร อะไรไม่ควร จะดีกว่า แล้วต้องสอนบ่อยๆ แบบพร่า
สอนทีเดียว แล้วก็ทำสิ่งที่ดีๆ ตามที่สอนนั้น ให้ลูกดูด้วย
ส่วนในเรื่องของการส่งเสริมให้ลูกเล่าเรียนเขียนอ่านนั้น พ่อแม่ก็
พยายามทำกันเต็มที่ แต่บางครั้งก็คาดหวังสูงเกินไป ซึ่งปู่ย่าตายายท่าน
ให้ข้อคิดไว้อีกเช่นกันว่า
คุณพ่อคุณแม่ยุคปัจจุบัน บางท่านรู้ตัวว่าไม่ค่อยมีเวลาสอนให้
ลูกรู้ว่า อะไรดี อะไรชั่ว แต่ว่าก็มีความเป็นห่วงลูกมาก อยากให้ลูกได้ดี
รีบเอาลูกไปฝากตามโรงเรียนต่างๆที่มีชื่อเสียงว่าเป็นชั้นเยี่ยมของเมืองไทย
ไปแย่งกันฝากลูกเข้าโรงเรียน จะเสียค่าแป๊ะเจี๊ยะเป็นหมื่นเป็นแสนก็ไม่
เกี่ยงขอให้ลูกฉันเข้าได้เถอะพอให้เข้าได้แล้วก็คิดว่าลูกจะเป็นคนดีคนเก่ง
เพราะครูเขาคงจะสอนให้ดีได้
อย
g
คนที่ไปเที่ยวกลางคืน จะอยู่ในสภาพที่ควบคุมตัว
เองไม่ได้ ความมึนเมากําลังออกฤทธิ์ แม่กับพ่อ
กลัวลูกบาดเจ็บ กลัวลูกจะได้รับอุบัติเหตุจากการ
ทะเลาะวิวาทกัน กลัวบรรยากาศ จะจูงใจให้ลูก
เผลอไปลองยา แล้วโดนตำรวจจับ กลัวว่าลูกจะ
โดนมอมยา แล้วถูกพาไปขายตัว กลัวว่าลูกจะ
ต้องติดโรคเอดส์ ต้องหมดอนาคต และมาตาย
ก่อนวัยอันควร
ก็ขอฝากไว้ในที่นี้ว่าคุณพ่อคุณแม่คิดผิดแล้ว เพราะการสอน
เด็กให้รู้ดีรู้ชั่ว รู้บุญ บาป เป็นเรื่องยาก ต้องอธิบายมากและต้องสอน
เดี่ยวๆ หรือสอนกลุ่มเล็กๆ เพียง ๒-๓ คน ต้องอธิบายกันไป ประคบ
ประหงมกันไป จึงจะสามารถให้ซึมซับเข้าไปในใจ ที่จะหวังให้คุณครูที่
โรงเรียนสอนนั้น ขอบอกว่าหวังมากเกินไป เพราะครูคนเดียวต้องดู
นักเรียนหลายห้อง และห้องหนึ่งก็มีนักเรียน ๓๐-๔๐ คน
เวลาที่ลูกอยู่บ้าน พ่อแม่ก็สู้ทำตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอน
ดีกว่า คือสอนลูกให้ละชั่ว ตั้งอยู่ในความดีให้ได้ก่อน แล้วจึงมุ่งมาที่
เรื่องโรงเรียน เรื่องหาคู่ครองและเรื่องสมบัติตามลำดับของหน้าที่พ่อแม่
ใครทำได้อย่างนี้ก็เป็นอันสบายใจได้ ไม่ต้องตามห่วงว่าลูกจะไป
อย่างนั้นอย่างนี้ ลูกจะรู้เองว่าอะไรดี อะไรชั่ว มีคุณและโทษต่อตนเอง
อย่างไร แม้ในที่สุดจะเป็นเรื่องไปเที่ยวผับ เที่ยวเธค กินเหล้า เมายา
ค
label