ข้อความต้นฉบับในหน้า
ญาติหรือคนรักป่วยหนักไว้บ้าง เพื่อตัวของเราเอง
ข้อดีของการศึกษาวิธีดูแลผู้ป่วยหนักที่ใกล้จะละโลกไว้บ้างเช่นนี้
ย่อมทำให้เราปฏิบัติได้ถูกในการดูแลรักษาจิตใจญาติหรือผู้มีพระคุณ ที่
กำลังต่อสู้กับความเจ็บปวดในยามใกล้ละโลก รวมทั้งถ้าหากวันนั้นมาถึง
ตัวเราบ้าง เราก็จะเตรียมตัวรับมือกับอาการต่างๆ ก่อนละโลกได้ถูกต้อง
และต้องเตรียมฝึกลูกหลานให้รู้จักวิธีดูแลเราอย่างถูกวิธีด้วย
เมื่อญาติหรือคนรักป่วยหนัก ควรดูแลอย่างไร ?
สำหรับเรื่องการดูแลคนไข้ เราต้องแบ่งเป็น ๒ เรื่องด้วยกัน คือ
๑. การดูแลรักษาโรคทางกาย
การดูแลทางกายนี้ ต้องพยายามหาแพทย์ที่มีความรู้ความสามารถ
ดีที่สุด มาให้การดูแลรักษาให้เต็มที่ เท่าที่ฐานะและสภาพแวดล้อมจะ
อ้านวยให้
๒. การดูแลรักษาใจคนไข้
ในกรณีผู้ป่วยหนัก มีอาการเป็นตายเท่ากัน ข้อนี้สำคัญมาก
เพราะเป็นการให้สติคนไข้ หากผู้ป่วยมีอาการหนักมาก การจะละโลกไป
สุคติ หรือทุคติ ก็ขึ้นอยู่กับสติก่อนตายนี้เอง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“เมื่อจิตก่อนตายเศร้าหมอง ย่อมมีทุคติเป็นที่ไป แต่ถ้าจิตก่อน
ตายผ่องใส ย่อมมีสุคติเป็นที่ไป
สุคติเป็นที่ไปคืออะไร ? ก็คือ การลาโลกไปแล้วได้เกิดในมนุษย
โลก เทวโลก พรหมโลก
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
“เมื่อจิตก่อนตายเศร้าหมอง ย่อมมีทุคติเป็น
ที่ไป แต่ถ้าจิตก่อนตายพ่องใส ย่อมมีสุคติเป็นที่ไป
ทุคติเป็นที่ไปคืออะไร ? ก็คือ การลาโลกไปแล้วได้เกิดในนรกภูมิ
เปรตภูมิ อสุรกายภูมิ และสัตว์เดรัจฉานภูมิ
สุคติ และ ทุคติ นี้ คือสถานที่ที่ผู้ตายจะต้องมารับผลแห่งกรรมที่
ตนทำไว้เมื่อยังเป็นมนุษย์โดยตัดสินด้วยสภาพของใจก่อนละโลกว่า “เศร้า
หมอง" หรือ "ผ่องใส" ซึ่งพระท่านเรียกว่า “ศึกชิงภพ” คือช่วงชิงกัน
ระหว่างสุคติภพกับทุคติภพ
ดังนั้น ไม่ว่าผลลัพธ์ของการรักษาคนไข้จะเป็นอย่างไรก็ตาม ผู้ที่
ดูแลใกล้ชิดทุกคน ก็มีหน้าที่ดูแลผู้ป่วย ด้วยหลักการนี้ คือ
“คนใกล้ชิดจะต้องช่วยกันประคองรักษาใจของคนไข้ ให้ผ่องใส
ตลอดเวลา จะได้มีกำลังใจที่จะอยู่ผจญกับความร้ายแรงของโรค ไม่ท้อแท้
เบื่อหน่าย หรือสิ้นหวังในชีวิตเสียก่อน"
ado
ค
ada