ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
๓) เป็นผู้มีความสามารถในการเป็นครูบาอาจารย์ คือ
ให้การอบรมสั่งสอนพระภิกษุใหม่ให้เป็นผู้เลี้ยงชีพ
ด้วยการถือนิสัยของนักบวชได้ สอนให้มีศีลาจารวัตร
งดงามได้ สอนให้ตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมวินัยได้ และ
สอนการเจริญกรรมฐานเพื่อการปราบกิเลสในตนได้
ทั้งนี้เพื่อให้ภิกษุใหม่เป็นอายุพระพุทธศาสนา
เป็นเนื้อนาบุญอย่างแท้จริงของชาวโลก
และ
การบวชแบบญัตติจตุตถกรรมนี้เอง เป็นเหตุให้การบวช
พระภิกษุในดินแดนชนบทที่ห่างไกลแพร่หลายขึ้นอย่างรวดเร็ว
เป็นอันมาก ยังผลให้มีจำนวนพระภิกษุที่มีศรัทธาบวชตลอด
ชีวิตเพิ่มขึ้นจากหลักหมื่นเป็นหลักแสนอย่างรวดเร็ว
การบวชโดยการประชุมสงฆ์นี้ ในระยะแรกก็ยังไม่มีปัญหา
แต่อย่างใด เพราะการคัดกรองคนที่สมัครมาบวชอย่างรอบคอบ
และการอบรมมีคุณภาพไม่ย่อหย่อน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึง
มิได้ทรงบัญญัติพระปาฏิโมกข์หรือศีล ๒๒๗ ข้อ ซึ่งเป็นศีล
สิกขาบทของพระภิกษุในปัจจุบัน ครั้นต่อมาเมื่อการคัดกรองคน
และการอบรมคนมีคุณภาพย่อหย่อนลง จึงเป็นเหตุให้มีพระ
ภิกษุบางรูปประพฤติตนไม่เรียบร้อย และก่อปัญหาที่ไม่ดีไม่งาม
ขึ้นในหมู่สงฆ์ ซึ่งเรียกว่า “ต้นบัญญัติ” ทำให้หมู่สงฆ์ต้องถูก
ชาวโลกติเตียน พระศาสนาพลอยมัวหมองไปด้วย พระพุทธองค์
จึงทรงเรียกประชุมสงฆ์ และบัญญัติศีลสิกขาบททีละข้อ ๆ ให้หมู่
สงฆ์รับทราบและนำไปปฏิบัติให้ตรงกัน เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิด
พุทธกิจเร่งสร้างคน
ความรู้ประมาณ
รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา