ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
“ภิกษุในธรรมวินัยนี้ ย่อมรู้จักกาลว่า นี้เป็นกาลเรียน นี้
เป็นกาลสอบถาม นี้เป็นกาลประกอบความเพียร นี้เป็นกาลหลีก
ออกเร้น ... ฉะนั้น เราจึงเรียกว่า เป็นกาลัญญู ...”
แม้จะฝึกหัดขัดเกลาตนเอง จนกระทั่งรู้จักธรรมคือรู้จัก
พระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธองค์ รู้จักอรรถคือเข้าใจพระ
ธรรมลึกซึ้ง รู้จักตนคือประเมินคุณธรรมของตนเองได้และรู้จัก
ประมาณแล้ว สิ่งที่ขาดเสียมิได้ลำดับต่อไป ก็คือการทุ่มเทเวลา
ให้กับการปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง มิฉะนั้นจะยังไม่สามารถ
กระทำตน ให้เป็นที่พึ่งที่แท้จริงแก่ตนเองได้อย่างสมบูรณ์
เพราะการที่จะบรรลุธรรมอันเป็นที่พึ่งสูงสุดของตนเองได้
นั้น ต้องอาศัยความเข้าใจพระธรรมอย่างแจ่มแจ้ง ควบคู่ไปกับ
การฝึกจิตของตนเองอย่างเข้มงวด เพื่อกลั่นจิตให้สะอาดบริสุทธิ์
ไปตามลำดับ
ด้วยเหตุนี้ พระภิกษุจึงต้อง ๑) ทุ่มเทเวลาให้กับการ
ศึกษาค้นคว้าพระธรรมอย่างเอาจริงเอาจัง ๒) สอบถามกับผู้รู้
เมื่อมีสิ่งที่ไม่เข้าใจจนกว่าจะแจ่มแจ้ง ๓) เจริญสมาธิภาวนา
อย่างสม่ำเสมอมิได้ขาด ๔) หลีกออกเร้นเพื่อทำสมาธิภาวนา
ติดต่อกันนานๆ
กิจทั้ง ๔ ประการนี้เป็นหัวใจของการบรรลุธรรม พระภิกษุ
จะต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกสุด ก่อนที่จะปฏิบัติกิจวัตร
อื่นๆ ของสมณะ
ความรู้ประมาณ ព
รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
พุทธภารกิจเร่งสร้างครู