ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
สุภัททปริพาชกกราบทูลว่า “หากผู้ที่เคยเป็นอัญเดียรถีย์
ประสงค์จะบรรพชาประสงค์จะอุปสมบทในพระธรรมวินัยนี้จะ
ต้องอยู่ปริวาส ๔ เดือน หลังจาก ๔ เดือนล่วงไป เมื่อภิกษุพอใจ
ก็จะให้บรรพชา จะให้อุปสมบทเป็นภิกษุได้ ข้าพระองค์จักขออยู่
ปริวาส ๔ ปี หลังจาก ๔ ปีล่วงไป เมื่อภิกษุพอใจ ก็จงให้
บรรพชา จงให้อุปสมบทเป็นภิกษุเถิด”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นความตั้งใจจริงของสุภัทท
ปริพาชกเช่นนั้นแล้ว จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์เป็นผู้บวชให้ ในขณะ
นั้น สุภัททปริพาชกมีความยินดีเป็นอันมากที่พระบรมศาสดา
แต่งตั้งศิษย์ในสำนักให้บวชลูกศิษย์แทนพระองค์ ซึ่งในขณะนั้น
สุภัททปริพาชกยังถือจารีตของลัทธิภายนอกพระพุทธศาสนาอยู่
การที่ใครได้รับการบวชด้วยวิธีนี้ ถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดที่
นักบวชนอกศาสนาทุกคนอยากได้ จึงกล่าวยกย่องพระอานนท์
ว่า
“ท่านพระอานนท์ เป็นลาภของท่าน ท่านได้ดีแล้วที่พระ
ศาสดาทรงแต่งตั้งท่านโดยมอบหมายให้บรรพชาอันเตวาสิกใน
ที่เฉพาะพระพักตร์”
หลังจากสุภัททปริพาชกได้รับการบรรพชาและอุปสมบท
ในสำนักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ก็หลีกออกไปอยู่ผู้เดียว
ไม่ประมาทมีความเพียร บำเพ็ญภาวนาอย่างอุทิศชีวิตเป็นเดิม
พันอยู่ไม่นานนัก ก็บรรลุเป็นพระอรหันต์อันเป็นที่สุดแห่งพรหม
จรรย์ในพระพุทธศาสนา ท่านสุภัททะจึงได้เป็นพระอรหันต์องค์
ความรู้ประมาณ တော
รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
พุทธภารกิจเร่งสร้างความมั่นคง