ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
ศาสนา อาศัยอยู่ในกรุงกุสินารา ได้ทราบว่า ในปัจฉิมยามของ
วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะเสด็จดับ
ขันธปรินิพพาน จึงได้คิดขึ้นว่าพระอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้าจะ
ทรงบังเกิดขึ้นในโลกเพียงบางครั้งบางคราวเท่านั้น หาก
พระองค์ดับขันธปรินิพพานไปแล้ว ก็จะหมดโอกาสซักถามข้อ
สงสัยบางประการ เขาจึงรีบไปเข้าเฝ้า เพื่อขอความรู้จาก
พระพุทธองค์ก่อนที่จะสายเกินไป
คิดได้ดังนั้นแล้ว สุภัททปริพาชกก็รีบเร่งไปยังสาลวโนทยาน
เพื่อเข้าเฝ้าพระพุทธองค์ แต่ก็ถูกพระอานนท์ห้ามไว้ถึงสามครั้ง
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงได้ยินถ้อยคำของพระอานนท์
เจรจากับสุภัททปริพาชกแล้ว จึงมีรับสั่งให้พระอานนท์อนุญาต
ให้สุภัททปริพาชกเข้าเฝ้าได้ โดยทรงมีรับสั่งว่า “อย่าห้าม
สุภัททะเลย อานนท์ เขาจะถามปัญหาบางอย่างกับเรา เขาหวัง
ความรู้จากเราเท่านั้น ไม่หวังรบกวนเรา เมื่อเราตอบสิ่งที่ถาม
แล้ว เขาจะรู้ได้ทันที” พระดำรัสนี้แสดงถึงน้ำพระทัยแห่งความ
เป็นพระบรมครูของพระองค์อย่างมหาศาล และยังเป็น
เหตุการณ์ที่ซาบซึ้งใจแก่พุทธบริษัทมาตราบถึงทุกวันนี้
หลังจากที่พระองค์ทรงมีพุทธานุญาตแล้ว สุภัททปริพาชก
จึงได้เข้าเฝ้าถึงที่ประทับ ได้สนทนาปราศรัยพอเป็นที่บันเทิงใจ
พอเป็นที่ระลึกถึงกันแล้ว ก็นั่ง ณ ที่สมควร แล้วกราบทูลถามว่า
พุทธภารกิจเร่งสร้างความมั่นคง
ความรู้ประมาณ
အာဝ รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา