ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
เสด็จบิณฑบาต เวลาเย็นทรงแสดงธรรม เวลาย่ำค่ำประทาน
โอวาทแก่ภิกษุ เวลาเที่ยงคืนทรงตอบปัญหาเทวดา เวลาย่ำรุ่ง
ทอดพระเนตรสำรวจหาสัตวโลก ผู้ควรตรัสรู้เพื่อเสด็จไปโปรด
พระองค์ทรงงานหนักหามรุ่งหามค่ำแบบนี้ตลอด ๔๕ พรรษา
เพื่อบอกความจริงของชีวิตให้ชาวโลกรับรู้ว่าท่านทั้งหลายเป็น
นักโทษผู้ติดอยู่ในคุกแห่งวัฏสงสาร พร้อมทั้งบอกหนทางหลุด
พ้นจากทุกข์และพ้นจากคุกแห่งวัฏสงสารให้กับชาวโลกด้วย
แม้แต่วาระสุดท้ายก่อนจะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ก็ยังทรงทำ
หน้าที่ของพระบรมศาสดาผู้ยิ่งใหญ่เพื่อดับทุกข์เข็ญและเพื่อ
อนุเคราะห์ชาวโลกให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดอยู่ใน
วัฏสงสาร ด้วยการสรุปคำสอนอริยมรรคมีองค์ ๘ ลงเพียงสั้นๆ
ว่า “ความไม่ประมาท” เพื่อการบรรลุมรรคผลนิพพานของ
ชาวโลกในภายหน้าต่อไป
จึงเกิดคำถามตามมาว่า พระพุทธองค์ทรงกระทำพุทธ
ภารกิจอันยิ่งใหญ่ทั้ง ๓ ประการนี้ให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างไร
ท่ามกลางอุปสรรคปัญหามากมายทั้งทุกข์ในชีวิตประจำวัน
ของชาวโลก ทุกข์จากมาร ๕ ฝูงที่คอยบีบคั้นชาวโลกโดย
ไม่ปรากฏตัวให้เห็น และปัญหาที่พญามารผู้บงการขัดขวาง
ทั้งการตรัสรู้ธรรมของพระองค์และการพาชาวโลกแหกคุก
แห่งวัฏสงสาร แต่ก็ทรงทำได้สำเร็จภายใน ๔๕ ปี และยังทรง
วางรากฐานของพระพุทธศาสนาไว้อย่างมั่นคงมาจนถึงยุค
ปัจจุบันนี้
การฝึกความรู้ประมาณเพื่อพานักโทษแหกคุก
ความรู้ประมาณ
๑๕๐
ออกจากวัฏสงสาร
รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา