ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
พระวินัยที่พระพุทธองค์ทรงบัญญัติขึ้นเป็นศีลสำหรับพระ
ภิกษุสงฆ์นั้น มีมากถึง ๒๒๗ ข้อ แบ่งเป็น ปาราชิก ๔,
สังฆาทิเสส ๑๓, อนิยต ๒, นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๓๐, ปาจิตตีย์
๙๒, ปาฏิเทสนียะ ๔, เสขิยวัตร ๗๕, อธิกรณสมถะ ๗
มีข้อสังเกตว่า ในจำนวนศีล ๒๒๗ ข้อนี้ มีอยู่ ๑๗๑ ข้อ ที่
บัญญัติขึ้น ณ วัดพระเชตวัน ซึ่งเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนา
ในยุคนั้น พระวินัยที่บัญญัติขึ้น ณ ที่นี้นั้น แบ่งเป็น สังฆาทิเสส
5 ข้อ นิสสัคคียปาจิตตีย์ ๒๔ ข้อ ปาจิตตีย์ ๖๕ ข้อ ปาฏิเทสนียะ
๒ ข้อ และเสขิยวัตร ๗๒ ข้อ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเรื่องเกี่ยวกับ
สตรี ลาภสักการะ และมารยาท ทั้งนี้ย่อมเป็นหลักฐานยืนยัน
ว่า พระวินัยจำนวนมากกว่าครึ่งนี้ ถูกบัญญัติขึ้นในช่วงเวลาที่
พระพุทธศาสนากำลังเจริญรุ่งเรืองอย่างกว้างขวางที่สุดในยุค
พุทธกาล และเป็นปัญหาเกี่ยวกับเรื่องการถือนิสัย ๔ และ
อปัณณกธรรม ๓ ทั้งสิ้น กว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจะทรงแก้
ปัญหาเรื่องพระวินัยนี้ได้อย่างลงตัว ก็ต้องทรงเหน็ดเหนื่อยพระ
วรกายเป็นอย่างมาก แต่ก็ส่งผลให้พระพุทธศาสนามีอายุยืนยาว
มาถึงชาวโลกในยุคปัจจุบัน
นอกจากนั้น การบัญญัติพระวินัยที่เป็นศีล ๒๒๗ ข้อ
สําหรับพระภิกษุแล้ว พระองค์ยังทรงบัญญัติพระวินัยที่เกี่ยวกับ
การบริหารปกครองหมู่สงฆ์อีกหลายประการ เช่น จารีต
ประเพณีของสงฆ์ การประชุมสงฆ์เพื่อทบทวนพระปาฏิโมกข์
การกำหนดเขตจำพรรษา การกำหนดระเบียบในการตั้งโรงครัว
เป็นต้น ซึ่งอำนวยผลให้สามารถวางกรอบปฏิบัติส่วนบุคคลและ
ความรู้ประมาณ
พุทธกิจเร่งสร้างคน ๕๔ รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา