ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
ดังนั้น โอวาทในส่วนที่สามนี้ก็คือ การปลูกฝังวิธีฝึกฝน
อบรมตนให้หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดในวัฏสงสาร
ให้กับประชาชน โดยมีพระอรหันต์ทำหน้าที่เป็นต้นแบบในการ
ดำเนินชีวิตและเป็นครูแนะนำสั่งสอนการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์
๘ ให้แก่ประชาชนนั่นเอง
หลังจากที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแสดงโอวาทปาฏิโมกข์แก่
เหล่าพระอรหันต์สาวกจบลงแล้ว ก็เท่ากับว่า การประกาศ
นโยบายเพื่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างเป็นทางการได้เริ่ม
ต้นในวันนั้นเอง และแม้เวลาจะผ่านไปนานแล้วก็ตาม พระภิกษุ
รุ่นแล้วรุ่นเล่าก็ยังคงยึดโอวาทปาฏิโมกข์เป็นนโยบายในการ
เผยแผ่พระพุทธศาสนาตราบจนกระทั่งทุกวันนี้ ทั้งนี้เพราะ
โอวาทปาฏิโมกข์ เคยเป็นนโยบายการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอดีตทุกๆ พระองค์ทรงประกาศใช้อย่าง
ต่อเนื่องกันมาทุกพุทธกาล กล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือโอวาทปาฏิโมกข์
คือสูตรสำเร็จในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาที่พระสัมมาสัมพุทธ
เจ้าทุกๆ พระองค์ทรงให้การรับรองแล้วนั่นเอง
๑.๔ คุณสมบัติของนักเผยแผ่ที่เป็นพระอรหันต์
การเผยแผ่พระพุทธศาสนาในช่วงยุคต้นพุทธกาลนั้น แม้
ยังไม่มีพระธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามากนัก
แต่
การที่ประชาชนได้เห็นบุคลิกสง่างาม มีศีลาจารวัตรสงบเสงี่ยม
มีผิวพรรณผ่องใส มีใบหน้าที่ฉายแววแห่งความสุขของเหล่าพระ
หันต์ทั้งหลาย ก็รู้สึกอัศจรรย์ใจและเกิดความเลื่อมใสศรัทธา
ความรู้ประมาณ
พุทธภารกิจเร่งสร้างครู 370 รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา