ข้อความต้นฉบับในหน้า
www.kalyanamitra.org
๒. ผู้ที่จะเป็นครูผู้อื่นได้ต้องเป็นผู้ที่ฝึกฝนอบรม
ตนเองให้ได้อย่างน้อย ๒ ประการ คือ ๑) เป็นต้นแบบการ
ดำเนินชีวิตได้ และ ๒) เป็นกัลยาณมิตรให้กับผู้อื่นได้
เกี่ยวกับเรื่องนี้อาจสังเกตได้จาก การที่พระธรรมคำสอนใน
ยุคต้นพุทธกาลยังมีไม่มาก แต่ก็สามารถบุกเบิกงานเผยแผ่
พระพุทธศาสนาให้ขยายไปทั่วทุกแคว้นได้ โดยอาศัยศีลาจารวัตร
อันงดงามและความเป็นกัลยาณมิตรของพระอรหันต์เป็นต้นแบบ
นำความรู้และประสบการณ์ที่ท่านฝึกฝนอบรมตนเองมาจน
กระทั่งหมดกิเลส มาเป็นหลักในการอธิบายขยายความพระ
ธรรมคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ประชาชนเกิดความ
เข้าใจถูกต้อง เกิดความเลื่อมใสศรัทธา พร้อมทั้งนำไปปฏิบัติ
เป็นกิจวัตรจนสามารถบรรลุธรรมได้
ส่วนในยุคที่พระธรรมคำสอนมีมากแล้ว การเคี่ยวเข็ญฝึก
อบรมพระภิกษุรูปใดขึ้นมาเป็นครูบาอาจารย์ แม้ว่าภิกษุรูปนั้น
จะยังไม่หมดกิเลส ก็ยังทรงกำหนดว่าต้องยึดปฏิบัติตามสัปปุริสธรรม
๗ ประการ โดยคุณธรรม ๔ ข้อแรก คือ ธัมมัญญู อัตถัญญู
อัตตัญญู มัตตัญญู กาลัญญู มีไว้เพื่อฝึกตนเองให้หมด
กิเลส และเพื่อเป็นต้นแบบการดำเนินชีวิตให้ชาวโลก ส่วน
คุณธรรม ๒ ข้อสุดท้าย คือ ปริสัญญู และบุคคลปโรปรัญญู มีไว้
เพื่อทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรแนะนำชักชวนชาวโลกให้กำจัด
กิเลสออกจากใจให้หมดสิ้น บรรลุพระนิพพาน
รากฐานความมั่นคงของพระพุทธศาสนา
ความรู้ประมาณ ๙๕
พุทธภารกิจเร่งสร้างครู