อธิบายบาลีไวญากรณ์ อธิบายบาลีไวยากรณ์ สมาสและตัทธิต หน้า 20
หน้าที่ 20 / 94

สรุปเนื้อหา

ในบทความนี้นำเสนอการอธิบายบาลีไวญากรณ์ โดยเฉพาะในส่วนของการใช้คำ นอกจากนี้ยังมีการเปรียบเทียบระหว่างสมารและคำอื่นๆ รวมทั้งอธิบายถึงการสร้างคำใหม่จากการรวมคำเพื่อให้เกิดความหมายที่ชัดเจนยิ่งขึ้น บทความนี้เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจศึกษาเกี่ยวกับบาลีและศาสตร์ทางภาษาศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการประยุกต์ใช้ในพุทธศาสนา ศัพท์และการใช้ภาษาของพุทธธรรม

หัวข้อประเด็น

-บาลีไวญากรณ์
-สมั
-ตัชฌิต
-การสร้างคำในบาลี
-การประยุกต์ใช้บาลีในพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโยค - อธิบายบาลีไวญากรณ์ สมัและตัชฌิต - หน้า 19 น เป็น อน เช่น น อสุโล=อนสุโล (อัย สตฺโต สัตวํนี้) มิโม เป็นต้น น ปฏิสรรใสนาสนี้แปลจาก น บุพพบพุทธพุทธินิ ในที่นี้ ปฏิสรร นี่จะเปล่า ว่า สิ่งนี้ มีสิ่งนั้น ในพุทธพิริ ปฏิสรร คุณ และกรีก ที่เปล่า ไม่มี เช่น ไม่มีบุคคล เป็นต้น ๔. ทวนทวาสามาส สมาที่อยามตั้งแต่ ๒ บทขึ้นไป ให้เป็นบทเดียวกัน เรียกวัน- ทะวํ อย่าง คือ สมาหาร สมาหาร เหมือนกับทศสมาส แปลแต่ในนี้เป็นนามนามล้วน ในปริวาระนะใช้ อนศัพท์ซึ่งเปล่า ด้วย เข้าประอบ ก. สมาหาร อุง นี้ สมโฬ จ วิปสนา จ=สมวจิปลสนํ สมะด้วย วิปสนาด้วย ชื่อสมะและวิปสนา เมื่อสำเร็จแล้ว แปลว่า และ ในระหว่างศพสมาร ส่วน ท คสุมา ในวิเคราะห์ บทหน้าในสังขยา บทหลังเป็นนามนาม ทั้งไม่มํ จ ศัพท์เข้าประอบ ข. อสมาหร อุง นี้ จนุมา จ สุริโย จ=จนุมสุริยา พระฉันท์ด้วย พระอาทิตย์ด้วย ชื่อพระจันทร์และพระอาทิตย์ ท. สมโณ จ พุทธมโน จ=สมพุทธมานา สมะด้วย พราหมณ์ด้วย ชื่อสมะและพราหมณ์ ท. เพื่อเข้าใจง่าย สมาณิ นี้เท่ากับบาบนามนามตั้งแต่ ๒ บาท ขึ้นไป ให้เป็นบทเดียวกัน ใช้วิถีติมกันเอง แม้จะตั้งวิเคราะห์ ก็จะสามารถได้ ตั้งแต่ ๒ ขึ้นไปแล้วเป็นใชได้ แม้นบทสังขยาที่เป็น นามนาม ก็ใช้สมาณิ ได้เหมือนกัน แต่โดยมากศัพท์สังขยานั้น
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More