ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อภิปรายบาลไวยากรณ์ สมาธิและตำติฐ - หน้า ที่ 38
สมาทิที่มีนาม 2 บท หรือหลายบท มีเวสะแน เป็นอย่างเดียวกัน ต้อง
เข้าสมาทนามนามเสียดก่อน แล้วเข้าสมวสิแสนทีหลัง แล้วจึง
ต่อกับสมาทอื่่นต่อไป เปดก็แปลนามนาม อันต่อกันนั่นก่อน แล้ว
แปลสมาทที่เป็นเวสะแนทีหลัง ดงอุ. ต่อไปนนี้ :-
1. ธมโม เอว อจกุ=ธรรมกุ จักคือธรรม เป็น อวาราฒ-
บุพพพก กัมมาธრობสมาส
2. ปรัช ธมมจก=ปรรรมกุ=ปรรรมกุ จักคือธรรมบงบรว ตอน
นี้ตั้งก่อนแปลก่อนตามลำดับเลข แมสมาทืน ๆ ที่ทนานามนั่นตั้งแต่
2 ขึ้นไป มึงศพที่รวมกันคือดงนี้ตามนัยนี้ วิธอสมาทชนีดนี้
เหมือนเอาของห่อรมนต์รวมกันบ้าง เฉพาะอย่างบ้าง มาร้อนกัน ส่งใด
จะต้องห่อรวมกัน จำต้องห่อเสียดก่อน แล้วจึงนามช้อนกันภายหลัง
เวลานำอาบนบคราวกันออด้วยวิธีแก้ห่อเสียดก่อน แล้วนำออกเป็น
ลำดับไป นันมางอย่างที่จะต้องรวมมนามนามเสียดก่อนแล้ว ต่อ
วิสสะแนทีหลังกันนั่น เวลแปลก็แปลไปตามความของสมาท เล็งเนือ
ความเป็นกถนต์ ดัง อ. นี้ ซึ่งมีตัวอย่างบ้างต้น คือ :-
ปวดติก็ ปรารมมุกก็ เยน โละ=ปวดตัดปรารมมุกโศก (จกอ)-
จักคือธรรรมอันบวร อันพระผู้พระภาคใด ให้เป็นไปแล้ว พระผู้ม
พระภาคนั้น ถือว่าจักรคือธรรมอันบวรอันให้เป็นไปแล้ว. ตดายพทพพ
พิพิ มี อว. กัมม. และ วิ. บพพ. กัมม. เป็นท้อง นี่เป็นวิธีรวมนาม
นาม 2 บท คือ ธมม กับ อกุ เข้เสียด่อน แล้วต่อ ปร. เข้ท้หลัง
แล้วจึงต่อ ปวติต อันเป็นสมาทใหญ่เข้าในที่สุด ตามวิธีนี้. ปวดตุก-