ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโคด - อธิบายบาลีไวรากณ์ สมาธิและดับติชิต - หน้า 32
พหุพพิทธาลนี้ รูปวิจารณ์ ตัววิสเหนะและตัวประธาน มิงค์ว
จนสง วิทติสี เสมอกัน แปลแต่ สัพนาม คือ ย และ ค ที่
ถึงถึงประธานของบทปลมแห่งสมาธิ ท่านจึงเรียกสมาธิว่า
ดูลายธรรมหพุทธพิธี และพุทธพพิทธานี มีเนื้อความไม่ปฏิเสธ ที่
มีเนื้อความปฏิเสธ ท่านตั้งวิเคราะห์หรือวิธีหนึ่งต่างหาก เรียก น
บูพพท พุทธพิธี
น บูพพท พุทธพิธี
สมาธินี้ มีน ปฏิเสธเนื้อความที่เป็นคุณ ซึ่งไม่สรสมว่าคนนี้
ไม่มีสิ่งนั้น แปลกน น บูพพทกัมมาธยะ ที่ปฏิเสธนาม อันเลิศ
ความว่า สิ่งนี้ ไม่ใช่งั้น เป็นตัน น บูพพทนี พุทธพิหนี ท่าน
สอนให้แปลตามพยัญชนะ ว่า มี.. ไม่มี หรือว่า..หาไม่ได้ แปลเอา
ความว่า ไม่มี...ในปรุวรธให้ก็อาจจะขาดช ซึ่งประกอบด้วย
น ปฏิเสธ คูติ เรียงไว้ในอันดัับที ๑ ดัจากนั้นใช้ ค ศพธ์
ประกอบด้วย ญาติวิภิตติ คือ คสส เรียงไว้เป็นอันดัับที่ ๒ ดัจากนั้น
ไปเรืองบาประธานไว้เป็นที่ ๓ และมี อิติ ศพธ์ ต่อท้ายบทนามนนั้น
ดัง อ. ว่า นฏิ คสส สโมติ อัสโม ผู้สมอ ไม่มีแก่นาน (หรือ
จะโยคว่า สโมส ภาวโต แต่พระผู้พระภาคนั้นก็ได้) เหตุนัน (ท่าน)
ชื่อว่ามีสมอามาได้
นฏิ คสส ปฎ tortured อุปตกโก (ลง ค ต่อท้าย) บุตร ท.
ของเรา ไม่มี เหตุนัน เข้าชื่อว่า มุทรามิได้.