ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - อธิบายบาลีไวราณี สมาคมและตำรับธี - หน้า 20
เข้ามาสกับบทอื่นมาก่อน แล้วมาสั่งเป็นสมาคมที่หลัง เช่น อ.
ปริสิสต์ จ อดิสิสิสสุ จ=ปริสิสิกลิสสุ (สมาหะ) ร้อยแห่ง
บุรุษด้วย พันแร่งตรีซึ่ง ชือร้อยแห่งบุรุษและพันแห่งตรี
มีสมากชนิตหนึ่ง แ플อยู่กับทวนทวา อสมาหระนี้ เวลเข้า
สมาคมแล้วลบเสียบทหนึ่ง คงไว้แต่มดเดียวก็มิ ท่านเรียกว่า เอกเสส-
สมาส เช่น อุปาโก จ อุปลากา จ=อุปลากา อุบาสกด้วย
อุบาสิกด้วย ชื่อ อุบาสิกและอุบาสิก ท.
อุบาสกับอุบาสิกา เมื่อพูดถึงอุบาสกในกาบอย่าง ก็อาจ
หมายความอุบาสิกด้วย เหมือนภาษไทยเช่นขวัญรับประทาน
หมาย ก็หมายความถึงพูด้วย จะนั้น เอกเสสสมาสนี้ บทปลงแม้
คำพูดดีๆก็ต้องเป็นพวกวนะ เช่น สารีปุตโต จ โมคคลานิโน จ=
สาริโปดก พระสาริโดด้วย พระโมคัลลานะด้วย ชื่อ พระสาริโดร
และพระโมคัลลานะ ท. ข้อนี้ควรสังเกตว่าคำที่ไหนเป็นเอกเสสสมาส
หรือเป็นหมายเฉพาะบทที่เหลืออยู่เดียว ก็อควศพัทที่เหลือเป็นของสิ่ง
เดียวหรือฉายเดียว แต่เป็นพวกวนะ หรือบนต้นของเนื้อความบอก
ชื่ออแล้วหลายอย่าง ภายหลังพูดอย่างเดียว และเป็นพวกวนะ หรือ
ว่าของบางอย่างเป็นของคู่กันอยู่ จะแบกกันก็ขาดความประสงค์ไป
แต่ท่านใช้เพียงบทเดียว ก็อุดมตามนิยมของภาษา เช่น ภาษาไทย
เราก็ว่ากันมาก ก็หมายความว่าไม่ใช่กินมากอย่างเดียว คงกิน
พูด บุผ อ้อย และบางคราวในภาษาไทยเรา ใช้พูดจนให้รู้สึก แต่
พุทธวนของเราไม่ได้ใช้ว่าที่ ทั้งหลาย เสมอไป ใช้คำอื่นก็มี เช่นว่า