ข้อความต้นฉบับในหน้า
ปัญญาบารมี หหนทางการสร้างปัญญา
๑๑๒
เทวดาผู้เกิดบนต้นไม้ต้นหนึ่ง ในระหว่างทางยืนอยู่ค่ำต้นไม้พูดว่า ดูก่อนพราหมณ์ ถ้าท่านพักระหว่างทางท่านจักตายเอง แต่ถ้าวันนี้ท่านไปถึงบ้าน ภรรยาของท่านจักตาย แล้วก็หายไป
เขามองดูอยู่ไม่เห็นเทวดา กลับถูกภัย คือความตายดูกาม จึงร้องไห้คร่าวครวญไปถึงพระนครพาราณสี ก็วันนั้นเป็นวันอุโบสถ ๑๕ ค่ำ เป็นวันที่พระโพธิสัตว์นั่งแสดงธรรมบนธรรมสนฑ์ที่เขาแดนแล้ว มหาชนพากันถือของหอมและดอกไม้ดินไปฟังธรรมกายกันเป็นพวก ๆ พราหมณ์เห็นเขาจึงถามว่า ท่านทั้งหลายไปไหนกัน พ่อคุณ ? เมื่อเขาบอกว่า ดูก่อนพราหมณ์ วันนี้แสนกบัณฑิตจะแสดงธรรมด้วยเสียงไพเราะตามพฤวีลี ท่านไม่รู้หรือ ? จึงคิดว่า ได้ทราบว่า ท่านผู้แสดงธรรม ธรรมนั้นก็เป็นปนิตย์ คือส่วนเราถูกมรณภัยดูกาม ก็แหย่ผู้เป็นบุติติดอาจจะบรรเทาความโศกลุงมากมายได้ แม้จะกล่าวไปก็ธรรม ณ ที่นั้น เขาจึงไปที่นั่นกับมหาชนกลัวความตาย ได้ยืนร้องไห้อยู่ท้ายบริษัทที่พระราชานั่งห่องล้อมพระมหาสัตว์อยู่แล้วไม่ไกลจากธรรมสนฑ์ ทั่ง ๆ ที่ได้ข้าวถุงบาดอยู่ต้นคอ พระมหาสัตว์แสดงธรรมเหมือนกับให้ข้ามอากาศคงคาและเหมือนกับหลังฝนอมดูกลง มหาชนเกิดความโศมนัสให้สาธุการได้ฟังธรรมกันแล้ว ก็ธรรมดาบันตีตังหลายเป็นผู้องดูทีทาง ในขณะนั้น พระมหาสัตว์ลิมาตีกำประสาททั้ง ๕ ผ่องใสขึ้น ดูบริษัทโดยรอบ เห็นพราหมณ์นี้ จึงคิดว่า บริษัทจำนวนเท่านี้เกิดความโศมนัสให้สาธุการฟังธรรมกัน แต่พราหมณ์คนนี้คนเดียวถึงความโศมนัสรอให้พอใจในเรื่องนี้ทีเดียว เหมือนสนิมทองแดงหลุดออกไปเพราะชัดด้วยของเปรี้ยว และเหมือนหยดน้ำกลิ้งออกไปจากไปบัววะนั้น