ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปาทานของบุคคลนั้นเป็นใจจึงมีฟ จึงมีปัจจัย เพราะเป็นปัจจัย จึงมีชาติ เพราะชาติเป็นปัจจัย จึงมีชรา มรณะ โลภะ ปริเทธะ ทุกข์ โมหะมัสและอุปายาส ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นความเกิดแห่งรูปนี้เป็นความเกิดแห่งเวทนา นี้เป็นความเกิดแห่งสัญญา นี้เป็นความเกิดแห่งสังขาร นี้เป็นความเกิดแห่งวิญญาณ.
[๒๙] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นความดับแห่งรูป อะไรเป็นความดับแห่งสัญญา อะไรเป็นความดับแห่งวิญญาณ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรในธรรมขันธ์นี้ ย่อมไม่เพิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำถึง ย่อมไม่ดิ่งดำอยู่ ก็ภูมุขย่อมไม่เพิดเพลิน ย่อมไม่เพิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำถึง ย่อมไม่พร่ำถึง ย่อมไม่ดิ่งดำอยู่ซึ่งจะอะไร ย่อมไม่เพิดเพลิน ย่อมไม่พร่ำถึง ย่อมไม่ดิ่งดำ อยู่ซึ่งรูปเมื่อเธอไม่เพิดเพลิน ไม่พร่ำถึง ไม่ดิ่มด่ายอยู่ซึ่งรูปเมื่อเธอไม่เพิดเพลิน ไม่พร่ำถึง ไม่ดิ่มด่าย ย่อมไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูปเมื่อเธอไม่ดิ่มด่าย ไม่พร่ำถึง ไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูปเมื่อเธอไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูป เมื่อเธอไม่เพิดเพลิน ไม่พร่ำถึง ไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูปเมื่อเธอไม่ดิ่มด่าย ไม่พร่ำถึง ไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูปเมื่อเธอไม่ดิ่มด่ายซึ่งรูปในสัญญา... ในสังขาร... ในวิญญาณ ย่อมดับไป เพราะความยินดีของภิษุจึงดับไป อุปาทานจึงดับ เพราะอุปาทานดับ ภพจึงดับ ชยะ ดความดับแห่งกองทุกข์ทั้งมวลนี้ ย่อมมีด้วยประการอย่างนี้ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้เป็นความดับแห่งรูป นี้เป็นความดับแห่งเวทนา นี้เป็นความดับแห่งสัญญานี้เป็นความดับแห่งสังขาร นี้เป็นความดับแห่งวิญญาณ. จบ สมาธิสุตร