การรับฟังคำตักเตือนอย่างมีสติ : หน้า 203/407

ที่จาไปแนะนําตนกันด้วยความปรารถนาดี ดูจังหวะเวลาและอารมณ์ให้ดีให้พร้อม ยกเว้นว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ถ้าปล่อยไว้แล้วจะเสียหายอย่างมากมายต่อส่วนรวมหรือส่วนตัวก็ดี นี่ถือเป็นกรณีเฉพาะ ไม่ต้องดูเวลาและอารมณ์ สามารถเตือนกันตอนนั้นได้เลย แต่ยังไรก็ดตามให้เราปรับปรุงถ้อยคำให้ดี ให้เป็นถ้อยคำที่ใคร ๆ ก็พร้อมที่จะรับฟังได้ เช่นนํ้าตาลที่เคลือบเม็ดอย่างนั้น แต่ในประเด็นนี้มักจะมีเป็นส่วนใหญ เพราะว่าพวกเราทุกคนต่างไม่ดีเท่ากันอยู่แล้ว สิ่งที่จะนำมาซึ่งความเสียหายโดยเจตนานั้นไม่มี ส่วนใหญ่มักจะโดยไม่เจตนา เมื่อได้รับการชี้ชุมทรัพย์ ส่วนผู้ที่ได้รับคำตักเตือนก็ต้องตั้งสตให้ดี เอาใจตั้งอยู่ตรงกลางรับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ อย่าให้ขุ่นมัว เพราะผู้ตักเตือนนั้น ถ้าให้เขาเลือกกระหว่างอยู่เฉย ๆ กับมเตือนเรา เขาอยากอยู่เฉย ๆ มากกว่า จะได้ไม่มีใครโกรธ ผูกพบทบาท จองเวร เพราะฉะนั้นต้องเข้าใจหัวใจเขาด้วย เราจะต้องตั้งสติรับฟังด้วยใจที่เป็นปกติ ไม่ขุ่นมัว ให้เขาพูดแนะนําตักเตือนให้ครบถ้วนบริบูรณ์เสียก่อน ถ้าหากว่าเขาได้เห็นได้ยิน หรือสงสัยนั้นมันผิดพลาดคลาดเคลื่อน ไป ถ้าหากสามารถคุยกันได้ เราจะชี้แจงก็ชี้แจงด้วยใจที่เป็นปกติ ด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน ๑๒๒ ชีวิตสมณะ (ฉบับมหาปวารณา) www.kalyanamitra.org